“บัณฑิต อึ้งรังษี กับ ซีดีเจ้าปัญหา” (2010)

เมื่อเราค้นพบว่าเพลงส่วนใหญ่หรือทุกเพลงในซีดีชุดขาสั้นคลาสสิคแผ่นนี้ ไม่ได้บรรเลงโดยคุณบัณฑิต…

คุณบัณฑิตจะอธิบายภาพนี้ให้เราฟังว่าอย่างใร? 

บัณฑิต อึ้งรังษี กับ ซีดีเจ้าปัญหา

ขอความกรุณาอ่านคำชี้แจงด้วยครับ: บทความต่อไปนี้เขียนขึ้นในปี 2553 เป็นการนำข้อมูลซึ่งประกอบด้วย ข้อเท็จจริง และ หลักฐาน ของเหตุการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าวมานำเสนอ โดยไม่มีการกล่าวหาบุคคลผู้ใดแต่ประการใด

ตั้งแต่บล็อกนี้ถูกเขียนขึ้นมาเมื่อปี 2553 ก็ได้มีคนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับกรณีมากมาย และผมก็รู้สึกดีใจที่ผู้อ่านส่วนใหญ่สามารถแยกการใช้อารมณ์ออกจากการวินิจฉัยและพิจารณาถูกผิดด้วยข้อเท็จจริงและหลักฐานได้ โดยสามารถเห็นได้จากคอมเมนต์ของหลายๆท่าน แต่ก็มีอีกหลายคอมเมนต์ที่เต็มไปด้วยข้อกังขาและความสงสัย ทั้งนี้ผมขอตอบหลายๆคำถามที่ผมมักถูกถามเกี่ยวกับกรณีนี้ครับ

ทำไมต้องทำเป็นเรื่องใหญ่ด้วย นี่ประเทศไทย ใครๆเขาก็ทำกัน?

วาทกรรมที่ว่า “ใครๆเขาก็ทำกัน” เป็นวาทกรรมแห่งการยอมรับความเป็นไป ซึ่งอาจเป็นเรื่องดีหากสิ่งดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งจรรโลงสังคม แต่เมื่อใดที่เราใช้คำนี้กับสิ่งที่เรารู้แก่ใจว่าไม่ถูกต้องนั้นก็แปลว่าเราพร้อมที่จะยอมรับมันและต้อนรับมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้ว คงไม่ต้องมีการรณรงค์เพื่ออะไรใดๆในสังคมมนุษย์เลย การอยู่เงียบๆไม่ออกมาเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่ปลอดภัยที่สุด ไม่เสี่ยงต่อการโดนด่า เพ่งเล็ง วิพากษ์วิจารณ์ แต่คำถามมีอยู่ว่า หากคุณเป็นคนเดียวที่รู้ความจริงในเรื่องเรื่องหนึ่งในเวลานั้น คุณกล้าหรือไม่ที่จะออกมาเป็น whistle blower และคุณก็ต้องถามตัวเองว่าสิ่งที่คุณเอาออกมาตีแผ่นั้นมันเป็นประโยช์ต่อสาธารณชนหรือไม่ และที่สำคัญคุณต้องพร้อมที่จะโดนวิพากษ์วิจารณ์ แต่สิ่งเดียวที่จะอยู่เคียงข้างคุณเสมอคือ “ความจริง” จึงต้องลองถามตัวเองว่าเท่านั้นมันเพียงพอสำหรับคุณหรือไม่ เพราะในกลไกสังคมจริงๆแล้ว ในบางเวลาอาจมีสิ่งที่ถูกมองว่าสำคัญกว่า ข้อเท็จจริง หรือ ความถูกต้องของการกระทำ เช่น การคำนึงถึงกาลเทศะ ตำแหน่ง วัยวุฒิ ชื่อเสียงหน้าตาของบุคคลนั้นๆ เป็นต้น ก็ต้องมาพิจารณากันไป

 ทำไมไม่ไปคุยกับคุณบัณฑิตก่อน นี่กะจะแฉเขาอย่างเดียวเลยใช่ไหม?

ไม่เลยครับ ครั้งแรกที่ค้นพบเรื่องนี้ผมก็คิดว่าไม่น่าเป็นไปได้ (ตอนแรกยังมีข้อมูลเพียงเบื้องต้น ยังไม่ได้ค้นพบว่ามีซีดีของคุณบัณฑิตอื่นๆมากมายที่อยู่ในลักษณะนี้)  ผมได้นำมารายงานด้วยการแชร์ภาพและเขียนบรรยายใน facebook เท่านั้น ไม่มีอะไรใหญ่โต ทั้งนี้เนื่องจากยังไม่แน่ใจในเจตนา และอาจจะเป็นความผิดของผู้ออกแบบซีดี แต่เมื่อคุณบัณฑิตตอบมาด้วยตนเองแสดงจุดยืนชัดเจนว่าเป็นความตั้งใจ ผมจึงจำเป็นจะต้องหาข้อมูลเพิ่มเติมและเขียนบล็อกนี้ขึ้นมาเพื่อความกระจ่างในทันที ทั้งนี้ผมได้พยายามคุยกับคุณบัณฑิตต่อจากข้อความที่คุณบัณฑิตโพสต์มาแล้ว แต่ไม่มีการตอบรับใดๆ

เขียนบล็อกนี้มาเพื่ออะไร?

บล็อกนี้มีประโยชน์สำหรับผู้บริโภคทุกท่าน เสียงตอบรับที่ได้มานั้นมีหลายอย่างครับ บางคนก็ไม่แคร์และไม่เข้าใจว่าเป็นความผิดอย่างไรแม้ผมได้อธิบายไปชัดเจนแล้ว บางคนเข้าใจว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่ไม่เห็นด้วยกับการที่ผม(กล้า)ออกมาพูดความจริง (ซึ่งเข้าใจได้ เพราะไม่มีใครต้องการให้ไอดอลของตนเองนั้นแปดเปื้อน)  แต่มีอีกหลายๆท่าน (ซึ่งดูได้ในคอมเมนต์ต่างๆ) ที่ได้รับประโยชน์จากบล็อกนี้ และยอมรับว่าเข้าใจผิดและซื้อแผ่นไปโดยเข้าใจว่าคุณบัณฑิตคอนดักต์เอง ทั้งนี้มีทั้งคนขายด้วยที่เข้าใจผิด ไม่ใช่แค่ผู้ซื้อ ทั้งนี้จึงปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าการออกแบบปกซีดีต่างๆในลักษณะนี้ ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดจริงๆ

………………………………………………………………………………………………………………….

ตอนที่ 1: ความจริงที่น่าผิดหวัง

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว (กลางเดือนกันยายน 2553) ผมได้ไปเดินเล่นดูแผ่นซีดีเพลงคลาสสิคที่ร้าน Gram สยามพารากอน (ชั้น 4 ติดกับ Power Mall) พบแผ่นซีดีของคุณบัณฑิตวางขายอยู่จำนวนหนึ่ง ผมสะดุดตาซีดีแผ่นหนึ่ง มีชื่อแผ่นว่า “Heavenly Music” หรือ “ดนตรีจากสวรรค์” เนื่องจากหน้่าปกมีรูปคุณบัณฑิตคอนดักต์วงออร์เคสตราต่างประเทศอยู่อย่างโดดเด่น ก่อนซื้อ แผ่นซีดีถูกปิดผนึกด้วยพลาสติกใสไว้อย่างดี

รายละเอียดของแผ่นเป็นไปตามนี้ครับ (คลิกบนรูปเพื่อดูภาพใหญ่):

หน้าปกซีดี

1. หน้าปกเป็นรูปคุณบัณฑิตคอนดักต์วงฝรั่ง

ปกหลัง

2. ปกหลังเขียนว่า “บทเพลงเหล่านี้ได้ถูกคัดสรร โดย คอนดักเตอร์ บัณฑิต อึ้งรังษี … ทุกเพลงบรรเลงโดยนักดนตรีระดับโลกของยุโรป” ตามด้วยรูปคุณบัณฑิตกำลังคอนดักต์ “นักดนตรีระดับโลกของยุโรป”

ภายในกล่อง

หลังจากแกะที่หุ้มพลาสติกออกมาแล้ว:

3. เปิดกล่องออกมา มีประวัติคุณบัณฑิต ทั้งไทยและอังกฤษ

ภาษาอังกฤษเขียนว่า ‘biography’ – ส่วนภาษาไทยเขียนว่า “ประวัติวาทยกร บัณฑิต อึ้งรังษี”

4. บนตัวซีดี สกรีนรูปคุณบัณฑิตคอนดักต์วงฝรั่ง

…………ฯลฯ …………

เชื่อหรือไม่ว่า ทั้งแผ่นไม่มีเพลงที่คุณบัณฑิตคอนดักต์เองแม้แต่เพลงเดียว

เรื่องนี้ยังมีต่อ

………………………………………………………………………………………………………………….

 

ตอนที่ 2: เพลงในแผ่นมาจากไหน?

ในฐานะนักดนตรีที่อยู่ในวงการนี้มาแต่เด็ก ผมเชื่อและสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำครับว่า “ไม่ใช่เพียงผู้บริโภคทั่วไปที่จะซื้อซีดีชุดนี้ไปโดยคิดว่าเป็นการแสดงของคุณบัณฑิตเอง แต่แม้แต่นักดนตรีเองก็น่าจะเข้าใจแบบที่ผมเข้าใจ” อาจารย์อาวุโสหลายท่านก็คอนเฟิร์มผมมาเช่นนั้น ผมซื้อแผ่นนี้มาฟังในฐานะผู้ที่ติดตามผลงานของคุณบัณฑิตอยู่คนหนึ่ง และซื้อมาเพราะอยากฟังการแสดงของคุณบัณฑิตโดยเฉพาะ

ก่อนซื้อ แผ่นของคุณบัณฑิตถูกปิดผนึกด้วยพลาสติกใสเป็นอย่างดี ทั่วทั้งกล่องภายนอกไม่มีบอกที่ไหนเลยว่าใครเป็นคนบรรเลงดนตรี สิ่งเดียวที่เห็นก็คือรูปและชื่อของคุณบัณฑิต ซึ่งกระจายอยู่ทั่วกล่อง ถ้าเป็นผู้บริโภคทั่วไปคงไม่มีใครสงสัยว่าคุณบัณฑิตไม่ใช่ศิลปินในแผ่น แต่ผมเห็นว่า ผิดวิสัยแผ่นซีดีเพลงคลาสสิคอย่างมาก ซึ่งโดยปกติจะต้องบอกชื่อศิลปินเอาไว้ชัดเจนหน้ากล่องและ/หรือหลังกล่อง ดังตัวอย่างนี้:

ตัวอย่างของซีดีทั่วไปที่มีรูปและชื่อศิลปินเขียนไว้ชัดเจนบนปก โดยเฉพาะถ้าเป็น “ศิลปินระดับโลก” จะต้องบอกไว้ชัดเจนว่า “เพลงอะไร”, “ใครแต่ง”, “ใครคอนดักต์”, “ใครแสดงเครื่องดนตรีเดี่ยว”, และ “วงอะไรเล่น” — หากผิดไปจากนี้จะถือว่าผิดปกติเป็นอย่างมาก

ส่วนของคุณบัณฑิต ลักษณะคล้ายกับตัวอย่างข้างบนมาก ข้างนอกมีรูปและชื่อชัดเจน แต่ข้างในกลายเป็นการแสดงของคนอื่นซะงั้น (แล้วทำไมไม่มีบอกไว้นอกกล่อง?)

ด้วยความสงสัย หลังจากแกะพลาสติกแล้ว ผมจึงพลิกกล่องดูให้ทั่ว ทั้งข้างหน้า ข้างหลัง ข้างนอก ข้างใน… จนในที่สุดก็เจอ ข้างใต้! มาสังเกตตัวพิมพ์เล็กมาก เกือบต้องใช้แว่นขยายอ่าน หลบอยู่บริเวณใต้ที่ยึดแผ่นกลางกล่อง เขียนว่า “All tracks courtesy of the RFCM Symphony Orchestra conducted by Dr. Keith J. Salmon” (RFCM คือ Royalty-Free Classical Music, หรือ ‘ดนตรีคลาสสิคปลอดค่าลิขสิทธิ์’)

ทำไมไปซ่อนอยู่ตรงนั้น? (จากแผ่น ‘Heavenly Music’)

ตัวอย่างอีกแผ่นหนึ่ง – แผ่น ‘Just Romantic’ อันนี้เขียนไว้ตัวเล็กมาก บริเวณกลางกล่อง ซึ่งจะถูกที่ยึดแผ่นบังอยู่อีกทีหนึ่ง ถ้าอยากจะอ่านง่ายๆต้องแยกส่วนกล่องและดึงกระดาษออกมาอ่าน แล้วจะเจอที่เขียนว่า: “All tracks courtesy of the RFCM Symphony Orchestra”

อันนี้จากแผ่น ‘Just Romantic’  — อันนี้เขียนบอกแค่ “All tracks courtesy of the RFCM Symphony Orchestra” (มองเห็นไหม?)

แต่คราวนี้กลับไม่บอกว่าใครเป็นคอนดักเตอร์!

กดลิ้งค์นี้เพื่อดูโฉมหน้าของคอนดักเตอร์ตัวจริงของเพลงในแผ่นนี้ และแผ่นอื่นๆอีกหลายแผ่นของคุณบัณฑิต

RFCM ที่ว่านี้ เป็นเว็บไซต์รวม เพลงคลาสสิคปลอดค่าลิขสิทธิ์ (Royalty-Free Classical Music) โดยวาทยกร Dr. Keith J. Salmon ได้อัดเพลงคลาสสิคดังๆกับวงออร์เคสตร้าหลายวงในยุโรปเอาไว้จำนวนมาก แล้วเปิดให้คนมาดาวน์โหลดไปใช้ได้ในราคา $37 ต่อเพลง โดยมีข้อแม้ว่า ต้องไม่นำไปใช้ในทางการค้า และหากต้องการใช้ในจุดประสงค์นอกเหนือจากนี้จะต้องติดต่อกับ Dr. Keith Salmon โดยตรง และยังมีกฎอื่นๆตามที่ปรากฎใน ลิ้งค์นี้

รวมถึงข้อที่บอกว่า: คุณจะต้องบอกในเครดิตว่า “Music performed by the RFCM Symphony Orchestra conducted by Dr. Keith J. Salmon – http://www.royalty-free-classical-music.com”

แต่เหตุใดในแผ่น ‘Just Romantic’ จึงบอกแค่ชื่อวง แต่ไม่บอกว่า Dr. Keith J. Salmon เป็นคอนดักเตอร์ แถมยังไม่ให้ลิงค์เว็บไซต์ RFCM ตามที่กำหนดไว้ในสัญญา?

ส่วนอีกแผ่นหนึ่ง ซีดีชุดขาสั้นคลาสสิค ตอน “สั้นๆ ง่ายๆ สไตล์บัณฑิต” (I Feel Good) อันนี้ไม่มีบอกเลยในทั้งแผ่น ทั้งปกนอก ปกใน ว่าวงอะไรเล่น และใครคอนดักต์!

มันชักจะยังไงๆ…

………………………………………………………………………………………………………………….

ตอนที่ 3: แล้วเจ้าของเพลงเขาว่ายังไง?

เนื่องด้วยความไม่ชอบมาพากลของเรื่องทั้งหมดนี้ ผมจึงได้เขียนอีเมล์ไปถาม Dr. Keith J. Salmon เจ้าของเพลงจากเว็บไซต์ Royalty-Free Classical Music โดยตรง เพราะเชื่อว่าคงไม่มีศิลปินคนไหนอยากถูกคนเอางานตัวเองมาใช้โดยไม่ได้รับเครดิตอย่างเหมาะสม…

เริ่มแรกผมเล่าแค่ว่าไปเจอแผ่นๆหนึ่ง (แผ่น ‘Heavenly Music’ ของคุณบัณฑิต) ที่เป็นแผ่นรวมเพลงคลาสสิคดังๆจาก RFCM แต่กลับไม่เขียนบอกไว้นอกแผ่น ซึ่งเต็มไปด้วยภาพและชื่อของคอนดักเตอร์อีกท่านหนึ่ง (ตอนแรกผมไม่ได้บอกชื่อ) เขาเข้าใจไปว่าผมกำลังต่อว่าการออกแบบแผ่นของเขา ผมจึงต้องอธิบายไปอีกครั้งอย่างละเอียด โดยบอกว่าความจริงเป็นแผ่นของ บริษัท Inspire Music (ซึ่งเกี่ยวข้องกับคุณบัณฑิตโดยตรง) แต่เขาก็ยังเข้าใจผิดอยู่ นึกว่า Inspire Music นั้นไม่เกี่ยวข้องกับคุณบัณฑิตและได้เอารูปและชื่อคุณบัณฑิตมาแอบอ้างบนแผ่นเพื่อส่งเสริมการขายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากคุณบัณฑิต ผมจึงต้องอธิบายให้เขาฟังว่า คุณบัณฑิตเองได้ออกมาเปิดเผยแล้ว ว่าตนเองรับทราบเรื่องปกซีดีดังกล่าว (อ่านตอนที่ 4) และไม่เห็นว่าเป็นเรื่องผิดใดๆ โดยบอกว่าเมืองนอกก็เขาทำกันอย่างนี้และได้บอกทางสื่อไปแล้ว แถมเรื่องลิขสิทธิ์ก็ถูกต้องทุกประการ (แค่ไม่ยอมให้เครดิตศิลปินบนปกซีดี?)

ในฐานะพลเมืองดี ผมจึงถ่ายรูปรายละเอียดของกล่องซีดีของคุณบัณฑิตหลายชุดและส่งไปให้ Dr. Keith Salmon พิจารณา หลังจากได้ดูภาพที่ผมส่งไปให้ เขาจึงตอบผมกลับมาว่า เป็นตามที่ผมบอก และคุณบัณฑิตได้ละเมิดสัญญาเขาจริง (ในส่วนนี้เคยมีหลักฐานเป็นภาพจากอีเมล์แต่ คุณ Keith Salmon ไม่ต้องการให้ผมเอามาตีแผ่ในที่นี้ผมจึงเคารพความต้องการของเขาและลบออกไปแล้วครับ)

แต่เมื่อหนึ่งวันหลังจากผมตีพิมพ์บล็อกนี้ คุณ Keith ได้ส่งอีเมล์กลับมาหาผมว่า หลังจากที่คุยกับทางคุณบัณฑิตหรือ Inspire Music ไปแล้วเขาขอสรุปว่า “ยังมีหลักฐานไม่เพียงพอที่จะบอกว่าคุณบัณฑิตทำผิดกฎหมาย” แต่ที่ตลกก็คือ ผมไม่เคยบอกเลยว่าคุณบัณฑิตทำผิดกฎหมาย ผมแค่ส่งรูปพร้อมคำบรรยายให้คุณ Keith ไปดูเท่านั้น เชื่อว่าเขายังไม่เคยเห็นแผ่นซีดีต่างๆเหล่านี้ในมือจริงๆ เพราะเขาอยู่ยุโรป… และผมก็ได้อธิบายให้เขาฟังว่า ประเด็นหลักของเรื่องนี้อยู่ที่การออกแบบกล่องที่อาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด ไม่ใช่ว่าคุณบัณฑิตทำผิดกฎหมายหรือไม่

(แต่จริงๆแล้ว ไม่ว่าจะไม่มีเรื่องสัญญาหรือกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม การให้เครดิตศิลปินนั้นเป็นสิ่งพึงกระทำอยู่แล้ว เชื่อว่าคุณบัณฑิตเองคงจะเข้าใจในจุดนี้ดี ในฐานะศิลปินคนหนึ่ง)

อ่านจุดยืนของคุณ Dr. Keith J. Salmon ได้ ที่นี่ (ลิ้งค์จากคุณบัณฑิต)

คำถามต่อมาก็คือ คุณบัณฑิตเองนั้นจริงๆแล้วทราบเรื่องนี้หรือไม่ หรืิอเป็นความผิดพลาดของผู้ออกแบบแผ่นซีดี?

………………………………………………………………………………………………………………….

ตอนที่ 4: คำตอบของคุณบัณฑิต

หลังจากความช็อคทั้งหมดที่เพิ่งเล่าไปในตอนที่ 1-2 ผมได้นำเรื่องนี้ไปโพสต์ใน facebook (ดูได้ที่นี่) โดยมีคนเขียนตอบมามากมาย โดยเฉพาะจากนักดนตรีในวงการดนตรีคลาสสิคในประเทศไทย ทั้งรุ่นหนุ่มสาวและรุ่นอาวุโส จนในที่สุด คุณบัณฑิต อึ้งรังษี ก็ได้ให้เกียรติมาชี้แจงด้วยตนเองในหน้า facebook ดังกล่าวนี้

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ คุณบัณฑิต มิได้ออกมาชี้แจงว่า มีความผิดพลาดในการออกแบบซีดีชุดต่างๆเหล่านี้ แต่กลับบอกว่า สิ่งที่ทำอยู่นี้ (การนำภาพตัวเองมาขึ้นปกซีดี แต่เอาเครดิตคนที่แสดงจริงๆไปหลบไว้ใต้แผ่น หรือบางทีไม่ให้เครดิตเลย?) เป็นสิ่งที่ทำกันปกติในต่างประเทศ (…?) และที่คุณบัณฑิตไม่ได้คอนดักต์เองทั้งหมด ก็ได้บอกไปแล้วใน “สื่อ” (…ก็เลยโอเคที่จะไม่บอกบนแผ่น? เพราะผู้บริโภคทุกคนในประเทศไทยจะต้องได้เห็น “สื่อ” อันนี้กันหมดแล้ว อย่างนั้นหรือ?)

กล่าวคือ คุณบัณฑิตได้ยอมรับว่าสิ่งที่ทำอยู่สอดคล้องกับเจตนารมย์ของคุณบัณฑิตเอง…

ผมจึงขอยกคำชี้แจง (อย่างสมบูรณ์) ของคุณบัณฑิตมาให้ทุกท่านอ่าน ณ ที่นี้ โดยผมจะเขียนตอบในเชิงคำถามสำหรับทุกประเด็นที่คุณบัณฑิตเสนอมานะครับ:

คุณบัณฑิต:

สวัสดีครับ เพื่อนๆ ผมบัณฑิต อึ้งรังษี ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นต์ครับ

ในสื่อที่ออกไป เขียนอย่างชัดเจนว่า ผมเป็น Presenter, Executive Producer แต่เป็น Conductor เฉพาะในบางเพลงเท่านั้น และเพลงที่คอนดักท์จะมีโน้ตไว้อย่างชัดเจนครับ (แต่คอนดักท์ทุกเพลงในแผ่น Just Good Music)

ผม:

สื่อของคุณบัณฑิตไม่ใช่ประกาศภาวะฉุกเฉินของ ศอฉ.นะครับ ที่จะประกาศทีละสองครั้งและได้ดูทั่วกันทุกช่องทั้งประเทศ เกิดมาผมไม่เคยเห็นซีดีเพลงแผ่นไหนที่ ข้อมูลสำคัญ ไม่ได้เขียนบอกไว้บนแผ่น แต่กลับต้องให้ผู้บริโภคต้องมานั่ง “ตามสื่อ” แทน ถึงจะทราบข้อมูลที่ถูกต้องได้

และถูกของคุณบัณฑิตครับที่บอกว่าเพลงที่คุณบัณฑิตคอนดักต์เองจะบอกไว้ชัดเจนแต่ทำไมเพลงที่ไม่ได้คอนดักต์ถึงไม่บอไว้ให้ชัดเจนเหมือนกันล่ะครับ? แล้วที่ชื่อศิลปินตัวจริงเอาไปหลบไว้ในกล่องที่ปิดผนึกด้วยพลาสติกนี่ ผมสงสัยว่ามันชัดเจนยังไงหรือครับ?

คุณบัณฑิต:

โมเดลนี้ ที่ต่างประเทศก็ทำกันเป็นเรื่องปกตินะครับ ไม่ได้เป็นการหลอกลวงผู้บริโภค ผมปรึกษา Vice President ของ SONY/BMG ที่นิวยอร์ก ศิลปินใหญ่ๆที่อเมริกา ยุโรปก็ทำแบบนี้ และลิขสิทธิ์ถูกกฎหมายทุกประการครับ

ผม:

ศิลปินใหญ่ๆท่านไหนครับที่ทำแบบนี้? ผมพยายามนึกภาพ Elton John ออกซีดีมา หน้าปกเป็นรูปตัวเอง เขียนชื่อตัวเอง แต่พอเปิดฟังกลายเป็น Michael Jackson โดยมีเขียนบอกเป็นตัวเล็กๆหลบอยู่ภายในกล่อง ผมนึกไม่ออกจริงๆครับ ถ้าคุณบัณฑิตยกตัวอย่างพร้อมหลักฐานภาพมาด้วยก็จะฟังดูมีนำ้หนักมากกว่านี้เยอะเลยครับ น่าจะหาง่ายอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ เพราะเห็นคุณบัณฑิตบอกว่าเขาทำกันทั่ว?

ผมโทรไปคุยกับผู้จัดการผม ซึ่งเป็น Vice President ของ Columbia Artists ที่นิวยอร์ค ซึ่งจัดการศิลปินระดับโลกอย่าง Sir Neville Marriner, Seiji Ozawa, Sir Colin Davis, James Levine ฯลฯ เขาก็ยืนยันว่าการกระทำแบบนี้ ที่ไม่บอกให้ชัดเจนบนปกแผ่นว่าจริงๆแล้วใครเป็นผู้แสดงนั้น ไม่มีแน่ๆในโลกตะวันตก

ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์เราทราบดีครับว่าเป็น buy-out deal แต่ยังไงก็ต้องเครดิตเขาไม่ใช่หรือครับ? ถ้าไม่ตามสัญญา ก็ตามมารยาทศิลปิน ที่ต้องให้เกียรติเจ้าของงาน?

คุณบัณฑิต:

แต่ถ้ายังไม่ชัดเจนเพียงพอสำหรับบางท่าน ผมจะแก้ไขให้ผู้ซื้อซีดีเข้าใจอย่างชัดเจนในอนาคตครับ ขอขอบคุณที่นำมาเสนอ เพื่อจะได้ปรับปรุงแก้ไขต่อไป

ผม:

เมื่อเราบอกว่า: “หากยังไม่ชัดเจนเพียงพอสำหรับบางคน ก็จะแก้ไขให้” จะสามารถตีความได้ในทางตรงกันข้ามว่า: “หากไม่มีใครมาท้วงติงก็จะปล่อยเป็นอย่างเดิมต่อไป เพราะเดิมโอเคอยู่แล้ว”?

ผมอยากจะถามว่า การที่หน้าปกแผ่นเป็นรูปศิลปินคนหนึ่ง พร้อมชื่อชัดเจน ปกหลังก็เช่นเดียวกัน แถมบนตัวซีดีก็สกรีนรูปศิลปินคนนั้น พร้อมประวัติศิลปินผู้นั้น โดยไม่มีบอกที่ไหนข้างนอกแผ่นเลยว่าความจริงแล้วเขาเป็นผู้แสดงหรือไม่ ชื่อเดียวที่ผู้บริโภคเห็นบนกล่องก็มีแต่ชื่อของศิลปินผู้นั้น…

อย่างนี้มัน “ชัดเจน” ตรงไหนครับว่าศิลปินผู้นั้นไม่ได้เป็นผู้บรรเลงเพลงในแผ่น? หรือเป็นความผิดของผู้บริโภคเองที่ไม่ยอมตาม “สื่อที่ออกไป”?

สรุปคือ เหตุผลเพียงสองเหตุผลที่คุณบัณฑิดให้มา คือ 1. เมืองนอกเขาทำกัน (ใครทำครับ?) และ 2. บอกในสื่อไปแล้ว (ถ้าไม่ได้ตามสื่อก็จะไม่รู้?)…

คุณบัณฑิต:

จุดประสงค์ที่ผมทำซีดีชุดนี้คือ ต้องการให้ดนตรีคลาสสิกเข้าถึงคนไทยได้อย่างไม่แพง พยายามหาวิธีมานานแล้ว วิธีนี้เหมือนได้ผล เพราะได้รับการตอบรับที่ดี พอสมควร คนที่ไม่เคยฟังดนตรีคลาสสิกก็เขียนอีเมลเข้ามาหาผมแทบทุกวัน ว่าเขาได้เริ่มรักดนตรีดีๆแบบนี้

ผมอยากขอถือโอกาสนี้ เชิญชวนทุกท่านที่รักดนตรีคลาสสิกในเมืองไทย ช่วยกันชวนคนไทยฟังเพลงคลาสสิกเยอะๆ ผมเชื่อว่ายังมีคนไทยอีกมากมายที่จะต้อง “ทึ่ง”กับดนตรีคลาสสิกถ้าเขามีโอกาสได้ยินมันมากขึ้น และผมเชื่อว่าดนตรีนี้มีประโยชน์กับสังคมและคนไทย

ขอขอบคุณทุกคนที่พยายามสร้างกระแสเพลงคลาสสิกในเมืองไทย โดยเฉพาะคุณสมเถา ทฤษฏี และ ดร. สุกรี ที่ทำให้มีเด็กๆเล่นดนตรีคลาสสิกมากขึ้น ผมเห็นแล้วประทับใจมาก

ด้วยความหวังดี

บัณฑิต อึ้งรังษี

ผม:

ทั้งหมดนี้น่าชื่นชมครับ อย่างที่ผมได้บอกไปแล้วข้างต้น ความพยายามในการโปรโมตดนตรีคลาสสิคของคุณบัณฑิตนั้นน่าสรรเสริญครับ แต่ก็ยังไม่มีเหตุผลอยู่ดี ว่าทำไมไม่เขียนบอกชัดๆไว้นอกแผ่นว่าคุณบัณฑิตไม่ได้คอนดักต์เอง มันไม่ได้ทำยากเลยนะครับ จะว่าลืมก็ไม่ใช่ เพราะคุณบัณฑิตออกมายอมรับเอง แถมยังให้่เหตุผลสนับสนุนการกระทำ

ผมเชื่อว่าผู้บริโภคหลายท่านซื้อแผ่นคุณบัณฑิตไปโดยที่คิดว่าเป็นผลงานคุณบัณฑิต ผมเป็นหนึ่งในผู้บริโภคเหล่านั้น ผมเชื่อว่าคงมีบางท่านที่อาจได้เห็น “สื่อ” ของคุณบัณฑิตแล้วจึงทราบว่าคุณบัณฑิตไม่ได้คอนดักต์ดนตรีทั้งหมดเอง และคงจะมีอีกหลายท่านที่ไม่ได้สนใจว่าใครเป็นผู้บรรเลงเพลงในแผ่น แต่ในฐานะศิลปินด้วยกันแล้ว คงจะเป็นเรื่องดีถ้าเราให้เกียรติกันและให้เครดิตกันอย่างเหมาะสม เชื่อว่าคุณบัณฑิตคงเห็นด้วย

ในอเมริกา เคยมีคนซื้อกาแฟจาก McDonald’s แล้วทำหกใส่ตัวเอง จึงไปฟ้อง McDonald’s ใน 2 ข้อหา คือ กาแฟร้อนเกินไป และ คำเตือนที่บอกว่ากาแฟร้อน… พิมพ์ไว้ตัวเล็กไป! (อ่านเรื่อง) ปรากฎว่าฟ้องสำเร็จ ได้รับเงินค่าทำขวัญตีเป็นเงินไทยเป็น 10 ล้านบาท! ซึ่งผมเชื่อว่า ถ้าเราพูดถึงกาแฟ คนทั่วไปน่าจะรู้อยู่แล้วว่ามันร้อน… แต่ถ้าพูดถึงซีดีที่เอารูปคนหนึ่งมาเป็นหน้าปกแต่ไม่ให้เครดิตผู้แสดงจริงๆไว้ข้างนอกนี่… คนที่ไหนจะไปรู้ครับ?

Thailand Only…?

………………………………………………………………………………………………………………….

ตอนที่ 5: Believe It or Not!

ลองดูภาพนี้… คุณคิดว่า ‘World-class conductor’ ในที่นี้ เขาหมายถึงใคร?

โปรดสังเกต: คำว่า ‘orchestras’ เขียนเป็นพหูพจน์ คือมีวงต่างประเทศหลายวง กำกับโดย ‘conductor’ [ระดับโลก] คนเดียว (เป็นเอกพจน์)

คุณคิดว่า ‘World-class conductor’ ในที่นี้หมายถึงใคร?

แน่นอน คุณคิดว่าเขาหมายถึงคุณบัณฑิต! ใช่หรือไม่?

ผิด!

Believe It or Not!

ภาพที่เห็นนี้ เอามาจากปกหลังของซีดี ชุด ขาสั้นคลาสสิค ตอน ‘สั้นๆ ง่ายๆ สไตล์บัณฑิต’ หรือ ‘I Feel Good’ (ปกหน้า) หลังจากที่ซื้อมา ผมแทบจะเอาแผ่นมาแยกชิ้นส่วนเพื่อหาดูว่าใครเป็นศิลปินผู้บรรเลงเพลงในแผ่น…

จนในที่สุดพบว่าไม่มีเขียนบอกไว้ทั้งนอกแผ่น ในแผ่น บนแผ่น หรือใต้แผ่น ไม่มีบอกเลยว่าใครเป็นผู้บรรเลง!

คิดว่าถ้าเป็นผู้บริโภคทั่วไป ก็คงจะเชื่ออย่างสนิทใจไปแล้วว่า เขากำลังฟังคุณบัณฑิตคอนดักต์วงออร์เคสตราต่างประเทศ (หลายวงด้วย เพราะเป็นพหูพจน์…) โดยเฉพาะเมื่อเห็นรูปและข้อความด้านบน แต่ส่วนตัว ผมดูแล้วว่า packaging กำกวมแบบนี้ เหมือนจะเชื่อถือไม่ค่อยได้…

ผมจึงเริ่มกระบวนการพิสูจน์หลักฐาน

ผมเริ่มจากการตั้งสมมติฐานว่า เพลงต่างๆในแผ่นนี้ เป็นไปได้ว่าจะมาจาก RFCM เหมือนกับแผ่นอื่นๆ ผมจึงไปดาวน์โหลดแทร็คตัวอย่างจากเว็บไซต์ของ RFCM ให้ตรงกับเพลงในแผ่นของคุณบัณฑิตเท่าที่จะหาได้…

ผมเอาแทร็คตัวอย่างที่ได้มา มาเปิดฟังเปรียบเทียบกับแผ่นคุณบัณฑิต (ซึ่งในจุดนี้ผมขออธิบายว่า ไม่มีการแสดงดนตรีสดครั้งไหนในโลกที่จะเล่นออกมาเหมือนกันเป๊ะๆทั้งสองครั้งได้ [แม้จะเล่นด้วยวงเดียวกันกับคอนดักเตอร์คนเดียวกันก็ตาม] นักดนตรีที่มีประสบการณ์ส่วนใหญ่จะสามารถฟังออกได้โดยทันทีหากแทร็คทั้งสองแทร็คเป็นอันเดียวกันจริงๆ)

เพื่อความแน่ใจและรัดกุม ผมยังได้เอาแทร็คที่ต้องการเปรียบเทียบดังกล่าวไปเปิดในโปรแกรมตัดต่อเสียง เพื่อดูภาพคลื่นเสียงว่าตรงกันหรือไม่ โดยพบว่าแทร็คจากแผ่นคุณบัณฑิตที่มาสเตอร์แล้วจะดังกว่าแทร็คตัวอย่างของ RFCM นิดหน่อย แต่เป็นการแสดงอันเดียวกันแน่นอน:

เปรียบเทียบเสียงจากแผ่นคุณบัณฑิต (บน) กับแทร็คตัวอย่างจากเว็บ RFCM (ล่าง) — พบว่าอย่างน้อย 10 จาก 17 แทร็คในแผ่นคุณบัณฑิตเอามาจากเว็บ RFCM โดยไม่ได้ให้เครดิตเขา — (หมายเหตุ: ตัวเลข 4.0-12.0 ที่เห็นคือวินาที จะเห็นได้ว่าเสียงตรงกันจนถึงเสี้้ยววินาที)

ผมจึงพบว่า อย่างน้อย 10 เพลงจาก 17 เพลงในแผ่นของคุณบัณฑิตแผ่นนี้ เอามาจากเว็บ RFCM (คอนดักต์โดย Dr. Keith J. Salmon) — โดยไม่ให้เครดิตเขา

10 แทร็คดังกล่าวที่ผมคอนเฟิร์มได้ว่ามาจาก RFCM ได้แก่ แทร็คที่ 3, 4, 6, 10, 12, 13, 14, 15, 16, 17 ครับ

สำหรับแทร็คที่เหลือนั้นผมยังคอนเฟิร์มไม่ได้เพราะไม่มีแทร็คตัวอย่างให้ดาวน์โหลดจาก RFCM แต่เป็นไปได้มากที่จะมาจากซีดี Box Set ของ RFCM เพราะเพลงอื่นก็มีอยู่ในซีดีชุดนั้น

ส่วนแทร็คเดียวที่ผมแน่ใจว่าไม่ได้เอามาจาก RFCM คือแทร็คที่ 9 (เพลงซิมโฟนีเบอร์ 8 ของ Beethoven ท่อน 2) ซึ่งผมเช็คแล้วว่าเป็นคนละอันกันกับในแผ่นคุณบัณฑิต ซึ่งฟังดูแล้วเป็นบันทึกการแสดงสด เพราะมีเสียงคนไอตอนเริ่ม

(อีกอย่างหนึ่งก็คือ แทร็คที่ 5 บอกว่าเป็น Brandenburg Concerto No. 1 แต่พอเปิดฟังจริงๆแล้วเป็น Brandenburg Concerto No. 3 ซึ่งเป็นคนละเพลงกันเลย ฝากทีม Inspire Music แก้ไขด้วยครับ)

อันนี้เป็นแผ่นเดียวในซีดีคุณบัณฑิต ชุด “ขาสั้นคลาสสิค” ที่ผมไปเจอและได้อุดหนุนคุณบัณฑิตมา…

สำหรับแผ่นอื่นๆในซีดีชุดนี้ จะเป็นอย่างนี้ด้วยหรือเปล่าผมคงต้องฝากทุกท่านช่วยตรวจทานดูครับ…

………………………………………………………………………………………………………………….

ตอนที่ 6: แล้วที่ถูกต้องเป็นอย่างไร?

ก็เป็นอย่างซีดีส่วนใหญ่ที่เราเห็นกันอยู่ตามท้องตลาดนั่นแหละครับ!

เราซื้อแผ่นเพลงป๊อปเราก็อยากรู้ว่าใครร้องใช่มั้ยครับ ส่วนเพลงคลาสสิคเราก็อยากรู้เหมือนกันว่าวงอะไรเล่นและใครคอนดักต์

จะเห็นได้ว่าแผ่นซีดีมาตรฐาน จะให้ความสำคัญกับการให้เครดิตศิลปินมาก เพราะคนส่วนใหญ่เลือกซื้อแผ่นด้วยการดูว่าเป็นเพลงอะไรและใครคือศิลปิน

นี่คือตัวอย่างแผ่นรวมเพลงคลาสสิคแบบถูกต้องและเป็นมาตรฐาน จะสังเกตว่าเขาบอกไว้หมดว่าแทร็คไหน “ใครเล่น”, “วงอะไร”, “ใครคอนดักต์” ฯลฯ

อย่างนี้แหละครับเขาถึงจะเรียกว่า “ชัดเจน”

ซีดีรวมเพลงคลาสสิคตามมาตรฐานตะวันตก เห็นได้ชัดว่าทุกเพลงเขียนกำกับอย่างชัดเจนว่า “เพลงอะไร”, “ใครแต่ง”, “ใครเดี่ยวเครื่องดนตรีอะไร”, “วงอะไรเล่น”, “ใครคอนดักต์”

หรือจะเป็นตัวอย่างซีดีของไทยที่ให้เครดิตศิลปินถูกต้องก็มีครับ อันนี้เป็นแผ่นซีดีชุด “ประโคมเพลง ประเลงถวาย” ของวิทยุจุฬาฯ ซึ่งเป็นแผ่นรวมเพลงที่ศิลปินไทยแต่งเป็นคีตาลัยถวายแด่ สมเด็จพระพี่นางฯ ครับ จะเห็นได้ชัดว่าวงอะไรเล่นแทร็คไหน ใครคอนดักต์ชัดเจนครับ

ซีดีชุด “ประโคมเพลง ประเลงถวาย” ของวิทยุจุฬาฯ เป็นแผ่นรวมเพลงที่ศิลปินไทยแต่งเป็นคีตาลัยถวายแด่ สมเด็จพระพี่นางฯ — จะเห็นได้ชัดว่าวงอะไรเล่นแทร็คไหน ใครคอนดักต์ชัดเจน ไม่มีความกำกวม

แต่รูปแบบของคุณบัณฑิต ที่เขียนบอกเป็นตัวเล็กๆอยู่ในกล่อง บริเวณข้างใต้แผ่น (หรือบางทีไม่บอกเลย) ส่วนข้างนอกมีรูป “ผู้คัดเลือกเพลง” อยู่เต็มหน้าปก หรือบางทีมีรูปติดกับคำว่า “บรรเลงโดย World-class conductor” แต่จริงๆแล้วเป็น ‘World-class conductor’ คนอื่น — อันนี้ผมคิดว่าคงหาตัวอย่างอื่นมาเปรียบเทียบยากครับ

(แต่ถ้าคุณบัณฑิตยืนยันว่าเขาทำกันทั่วจริงๆ ผมก็อยากจะใคร่ขอดูไว้เป็นวิทยาทานครับ)

………………………………………………………………………………………………………………….

บทส่งท้าย: ปิดทองหลังโมสาร์ท

ผมขอเริ่มบทส่งท้ายโดยการถามคำถาม และขอให้ทุกท่านลองคิดตาม

ทำไมเวลาเป็นตัวคุณบัณฑิตคอนดักต์เองถึงเขียนบอกไว้บนปกอย่างชัดเจน… อย่างนี้:

แผ่น ‘Just Good Music’ เป็นซีดีที่คุณบัณฑิตคอนดักต์ทุกเพลงในแผ่น — และเป็นแผ่นที่เขียนบอกไว้ชัดเจนข้างนอกว่าใครคอนดักต์

แต่พอเป็นศิลปินท่านอื่น กลับเอาเขาไปซ่อน… อย่างนี้?

หรืออย่างนี้ (แต่รอบๆเป็นประวัติของคุณบัณฑิต):

หรืออย่างแผ่นนี้ ที่ไม่มีเครดิตศิลปินใดๆเลยทั่วทั้งแผ่น (เพลงส่วนใหญ่เล่นโดยวง RFCM กับ Dr. Keith Salmon แต่บนกล่องและในกล่องมีแต่ชื่อคุณบัณฑิต):

อีกทั้งยังยอมรับในการกระทำเช่นนี้:


เป็นเรื่องน่าแปลกอย่างยิ่งที่ คุณบัณฑิต อึ้งรังษี ในฐานะวาทยกรและศิลปินคนหนึ่ง จะรับรู้และอนุญาตให้มีการกระทำสองมาตรฐานเช่นนี้ต่อศิลปินด้วยกันเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อซีดีเหล่านี้ขายโดยหุ้มพลาสติก ทำให้ผู้บริโภคสามารถอ่านข้อมูลได้จากภายนอกเท่านั้น แล้วกลับเอาข้อมูลสำคัญไปพิมพ์เป็นตัวเล็กๆอยู่ภายในกล่อง เมื่อนักดนตรี นักฟังเพลง หรือผู้บริโภคทั่วไปมาค้นพบความจริงก็อาจทำให้เกิดข้อครหาได้

ส่วนหลักฐานทั้งหมดที่ผมนำมาเสนอในบทความนี้ เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ง่ายมาก แม้แต่เรื่องการเปรียบเทียบเสียงจากแทร็ค ที่กล่าวถึงในตอนที่ 5 ซึ่งความจริงแล้วนักดนตรีหรือบุคคลที่มีประสบการณ์ในการฟังเพลงอย่างละเอียดก็สามารถจะพิสูจน์ได้ด้วยตนเองโดยไม่ยากนัก

และเมื่อเราค้นพบว่าเพลงส่วนใหญ่ (หรืออาจเป็นทุกเพลง ยังพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัด) ในซีดีชุดขาสั้นคลาสสิคแผ่นนี้ ไม่ได้บรรเลงโดยคุณบัณฑิต…

คุณบัณฑิตจะอธิบายภาพนี้ให้เราฟังว่าอย่างใร?


ผมบอกกับทุกคนเสมอครับว่าผมชื่นชมคุณบัณฑิตมาตลอดที่หาทางโปรโมตดนตรีคลาสสิคอย่างไม่หยุดหย่อน โดยสามารถเข้าถึงคนจำนวนมากได้ด้วยชื่อเสียงของคุณบัณฑิต ทำให้คนทั่วไปสนใจและมีความรู้เกี่ยวกับดนตรีคลาสสิคมากขึ้น ทั้งนี้ ผมได้เขียนบทความบทนี้ขึ้นมาในฐานะผู้บริโภคที่ติดตามผลงานของคุณบัณฑิตอยู่คนหนึ่ง โดยเชื่อว่าหลายท่านอาจจะไม่ทราบข้อมูลเหล่านี้มาก่อน

แต่จนถึงบัดนี้ ผมก็ยังไม่เข้าใจครับว่าเพราะเหตุใด ซีดีแผ่นเดียวที่คุณบัณฑิตคอนดักต์เองทั้งแผ่น (Just Good Music) จึงเขียนบอกอย่างชัดเจนบนปกแผ่นว่าคุณบัณฑิตเป็นผู้บรรเลง แต่แผ่นอื่นๆที่คุณบัณฑิตไม่ได้เป็นคนคอนดักต์เองกลับเอาข้อมูลเกี่ยวกับศิลปินอื่นๆไปหลบเอาไว้ในแผ่น ทั้งๆที่การพิมพ์ข้อมูลดังกล่าวนี้ไว้นอกแผ่นก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย ผมคิดว่าถ้าผู้บริโภคสามารถได้รับความกระจ่างในจุดนี้ได้ก็จะดีมากเลยครับ

เรื่องที่ผมอยากจะพูดและอยากจะถามยังมีอีกเยอะครับ แต่สำหรับบทความนี้ (ซึ่งเป็น blog แรกของผมด้วย) คิดว่าคงยาวพอแล้ว ผมต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจในข้อมูลที่ผมได้นำมาเสนอ ณ ที่นี้ครับ

— ทฤษฎี ณ พัทลุง

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

About trisdee
ทฤษฎี ณ พัทลุง เป็นนักประพันธ์ดนตรี และวาทยกรไทยคนเดียวที่ได้รับเกียรติไปอำนวยเพลงให้กับ Royal Scottish National Orchestra (วงออร์เคสตราแห่งชาติสก็อตแลนด์), Orchestra Sinfonica Nazionale della RAI (วงออร์เคสตราแห่งชาติอิตาลี) และยังเป็นศิลปินชาวไทยคนแรกที่ได้เซ็นสัญญากับสังกัด Columbia Artists Management Inc. นิวยอร์ค (CAMI) ในปี 2554 ทฤษฎีได้รับการกล่าวถึงโดยนิตยสาร Class Filosofia แห่งประเทศอิตาลี ว่าเป็นหนึ่งในวาทยกรอายุต่ำกว่า 30 ปีที่มีความสามารถที่สุดในโลก หนังสือพิมพ์ Bangkok Post เลือกทฤษฎีเป็นหนึ่งใน "66 Young Leaders Shaping Thailand's Future" และนอกจากนั้นยังได้รับคัดเลือกเป็น ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน สาขาสื่อมวลชนเพื่อเด็กและเยาวชนที่ป้องกันปัญหาสังคม จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยเข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณในวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2555 ทฤษฎีรับตำแหน่งโค้ชนักร้องโอเปร่าที่สถาบัน Opera Studio Nederland แห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่อายุ 18 ปี และเป็นวาทยกรไทยคนแรกที่ได้อำนวยเพลง ณ Concertgebouw ประเทศเนเธอร์แลนด์ หนึ่งในหอแสดงดนตรีคลาสสิคที่สำคัญที่สุดของโลก จากนั้นได้รับเชิญจาก Dutch National Touring Opera ไปอำนวยเพลงในมหาอุปรากร La Cenerentola (ซินเดอเรลลา) ใน 12 เมืองทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์ และยังได้รับเชิญไปอำนวยเพลงในเทศกาลโอเปร่าระดับโลก Rossini Opera Festival ณ เมือง Pesaro ประเทศอิตาลีในปี 2552-2553 โดยถือเป็นวาทยกรรับเชิญที่อายุน้อยที่สุดในเทศกาลเป็นเวลา 2 ปีซ้อน ในฐานะนักประพันธ์เพลง ทฤษฎีได้ประพันธ์เพลง Eternity (นิรันดร์) คีตาลัยถวายแด่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งได้รับการบรรเลง ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และเมื่อสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทรงเจริญพระชนมายุ 7 รอบ ทฤษฎีได้ประพันธ์บทเพลงเฉลิมพระขวัญ "พระหน่อนาถ" โดยนำบทกล่อมในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มาประพันธ์ทำนองสากล ออกอากาศทางช่อง Modernine TV ต่อมาได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยสื่อโทรทัศน์ในช่วงพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ และบรรเลงสดในมณฑลพิธี พระเมรุ ท้องสนามหลวง ทฤษฎี ณ พัทลุง รับหน้าที่ผู้ฝึกสอนนักร้องโอเปร่าประจำคณะมหาอุปรากรกรุงเทพตั้งแต่อายุ 15 ปี ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นวาทยกรประจำวงดุริยางค์สยามฟิลฮาร์โมนิค จากการอำนวยเพลงของทฤษฎีในมหาอุปรากรเรื่อง The Magic Flute ของ Mozart ในปี 2549 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นิตยสาร 'OPERA' แห่งกรุงลอนดอนได้กล่าวถึงการแสดงครั้งนั้นในบทวิจารณ์ว่า: "หากคำว่า 'อัจฉริยะ' ยังเหลือความหมายใดๆอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยคำกล่าวอ้างเกินจริงนี้ ทฤษฎี นับเป็นตัวอย่างที่แท้จริงแห่งยุคปัจจุบัน" ("If the word 'genius' still has any meaning in this age of rampant hyperbole, Trisdee ... is truly a living example.") ในปี 2554 ทฤษฎีได้รับการกล่าวถึงโดยนิตยสาร Class Filosofia แห่งประเทศอิตาลี ว่าเป็นหนึ่งในวาทยกรอายุต่ำกว่า 30 ปีที่มีความสามารถที่สุดในโลก หนังสือพิมพ์ Bangkok Post เลือกทฤษฎีเป็นหนึ่งใน "66 Young Leaders Shaping Thailand's Future" และนอกจากนั้นยังได้รับคัดเลือกเป็น ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน สาขาสื่อมวลชนเพื่อเด็กและเยาวชนที่ป้องกันปัญหาสังคม จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยเข้ารับพระราชทานโล่เกียรติคุณในวันเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2555 ทฤษฎีรับตำแหน่งโค้ชนักร้องโอเปร่าที่สถาบัน Opera Studio Nederland แห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ตั้งแต่อายุ 18 ปี และเป็นวาทยกรไทยคนแรกที่ได้อำนวยเพลง ณ Concertgebouw ประเทศเนเธอร์แลนด์ หนึ่งในหอแสดงดนตรีคลาสสิคที่สำคัญที่สุดของโลก จากนั้นได้รับเชิญจาก Dutch National Touring Opera ไปอำนวยเพลงในมหาอุปรากร La Cenerentola (ซินเดอเรลลา) ใน 12 เมืองทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์ และยังได้รับเชิญไปอำนวยเพลงในเทศกาลโอเปร่าระดับโลก Rossini Opera Festival ณ เมือง Pesaro ประเทศอิตาลีในปี 2552-2553 โดยถือเป็นวาทยกรรับเชิญที่อายุน้อยที่สุดในเทศกาลเป็นเวลา 2 ปีซ้อน ในฐานะนักประพันธ์เพลง ทฤษฎีได้ประพันธ์เพลง Eternity (นิรันดร์) คีตาลัยถวายแด่ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซึ่งได้รับการบรรเลง ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และเมื่อสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี ทรงเจริญพระชนมายุ 7 รอบ ทฤษฎีได้ประพันธ์บทเพลงเฉลิมพระขวัญ "พระหน่อนาถ" โดยนำบทกล่อมในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มาประพันธ์ทำนองสากล ออกอากาศทางช่อง Modernine TV ต่อมาได้ถูกใช้อย่างแพร่หลายโดยสื่อโทรทัศน์ในช่วงพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพฯ และบรรเลงสดในมณฑลพิธี พระเมรุ ท้องสนามหลวง ทฤษฎี เกิดในกรุงเทพมหานครเมื่อปี 2529 เริ่มศึกษาดนตรีเมื่ออายุ 13 ปี โดยเรียนเปียโนกับ อาจารย์วรพร ณ พัทลุง, อาจารย์จามร ศุภผล และ อาจารย์เอริ นาคากาวา ต่อมาได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์สมเถา สุจริตกุล และรับหน้าที่ผู้ฝึกสอนนักร้องโอเปร่าประจำคณะมหาอุปรากรกรุงเทพตั้งแต่อายุ 15 ปี ปัจจุบัน ทฤษฎีดำรงตำแหน่งเป็นวาทยกรประจำวงดุริยางค์สยามฟิลฮาร์โมนิค จากการอำนวยเพลงของทฤษฎีในมหาอุปรากรเรื่อง The Magic Flute ของ Mozart ในปี 2549 ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นิตยสาร 'OPERA' แห่งกรุงลอนดอนได้กล่าวถึงการแสดงครั้งนั้นในบทวิจารณ์ว่า: "หากคำว่า 'อัจฉริยะ' ยังเหลือความหมายใดๆอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยคำกล่าวอ้างเกินจริงนี้ ทฤษฎี นับเป็นตัวอย่างที่แท้จริงแห่งยุคปัจจุบัน" ("If the word 'genius' still has any meaning in this age of rampant hyperbole, Trisdee ... is truly a living example.")

147 Responses to “บัณฑิต อึ้งรังษี กับ ซีดีเจ้าปัญหา” (2010)

  1. wät says:

    People have all the rights to know what they paid for. Interesting article indeed. Mr. B is overrated.

  2. Nicky says:

    เคยมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นที่นิตยสารเล่มหนึ่ง
    มีนักเขียนนำรูปจาก Multiply มาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
    เจ้าของมัลติพลายมาเจอในนิตยสารทีหลังเลยจะฟ้อง
    นักเขียนอ้างว่า ใส่เครดิตแล้ว ข้างๆ
    แต่ประเด็นคือ เขาไมไ่ด้ขออนุญาต

    มากรณีนี้ ถ้าเราเป็นเจ้าของเพลง เราก็ไม่พอใจนะ

    • mrbancha says:

      อาจไม่เหมือนเท่าไหร่นะครับ กรณีของ Multiply ที่ยกมาเป็นการละเมิด ซึ่งเจ้าของจะฟ้องได้ ถึงให้ credit ไปแล้วแต่การไม่ได้รับอนุญาตเป็นการละเมิดอยู่ดี

      แต่กรณีของคุณบัณฑิตนี่ ไม่ได้ละเมิดในเชิงกฎหมาย เพราะซื้อมาถูกต้องจากเจ้าของ แต่เป็นการทำ packaging ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญต่อผู้ซื้อได้

      ซึ่งถ้าเป็นการจงใจกระทำ ก็เป็นเรื่องน่าละอายอย่างยิ่งสำหรับศิลปินที่ (เคลมว่า) เป็นระดับโลก เพราะเป็นการขโมยเครดิตผลงานของศิลปินผู้อื่น

      ส่วนจะเป็นการจงใจหรือไม่นั้น วิญญูชนย่อมคิดได้เข้าใจได้ ผมไม่ฟันธงหรอก เดี๋ยวจะมาฟ้องร้องว่าผมกล่าวหาซะเปล่าๆ

      • attasun says:

        แต่ถ้่าสัญญาในการใช้เพลงมีข้อกำหนดให้บอกที่มาและชื่อของเจ้าของผลงาน ถึงแม้จะเป็น royalty free ก็น่าจะผิดสัญญานะครับ

  3. mrbancha says:

    ทฤษฎีหายไปหลายวันบอกว่าไปเขียน blog พอเห็นผลงานออกมาเชื่อเลยว่าทำการบ้านหนัก ขอแสดงความชื่นชมในความใส่ใจต่อวงการดนตรี ในฐานะนักดนตรีรุ่นใหม่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในความกล้าหาญที่ออกมาแสดงความกระจ่างในกรณีน่าตกใจเช่นนี้
    ขอบอกว่าผมภูมิใจในคุณทฤษฎีอย่างยิ่ง ผลกระทบอาจเกิดตามมาแต่จงมั่นใจ และยืนหยัดที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องต่อไป

  4. Somtow says:

    Great artists spend their entire lifetimes working to achieve their greatness. Sometimes it is not even recognized in their lifetime. But the important thing is that there are no short cuts. Every true artist in this country owes Trisdee a debt today. As for the “untrue” artists — they won’t be around in 100 years — but then again, they don’t care.

  5. leela1985 says:

    ละเอียดดีมากค่ะ

  6. kaninnit says:

    เป็นบทความที่น่าสนใจมากครับ บางทีความดังของบุคคลก็ทำให้ผู้บริโภคลืมดูความผิดพลาดของผลงานที่เขาผลิตออกมานะครับ

  7. Nali says:

    อ่านแล้ว ทำให้มีความรู้ ในการเลือกซื้อซีดีเพิ่มขึ้น 🙂

    • Bossio says:

      มีความรู้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ครับ เพราะดันเอาไปซ่อนไว้ในกล่อง ข้างใต้แผ่น

  8. PeterBen says:

    อึ้งครับ ไม่มีความรู้เรื่องพวกนี้เท่าไร แต่อ่านแล้วได้แต่อึ้งจริงๆ

  9. PeterBen says:

    ขออนุญาติ แชร์ในเฟสบุ๊คนะครับ

  10. TThai says:

    ท่านวาทยกรบัณฑิต หนึ่งเดียวในประเทศ ทำแบบนี้ก็เท่ากับแหกตาคนไทยทั้งประเทศน่ะซิครับ เราหลงปลื้มเสียแทบตายที่แท้ก็แค่จอมปลอมทั้งเพ ฝีมือแตัวเองไม่มีเลยหรือท่าน น่าสมเพทจริงๆ แต่ต้องขอชมว่าคุณขายตัวเองเก่งมาก ขอบใจคุณทฤษฎีที่ช่วยให้ความกระจ่าง คนชอบเพลงคลาสสิคจะได้หูตาสว่างหายงมงายกับท่านวาทยกรไทยระตับโลกคนนี้เสียที

    • Ocha says:

      รุนแรงไปหน่อยมั้ยครับ ผมเกรงว่าจะกลายเป็นการโต้เถียงแบบรุนแรงและก้าวร้าว
      เดี๋ยวเกิดอารมณ์โกรธจะกลายเป็นการเถียงกันแบบไร้เหตุผลซึ่งจะเสียเจตนารมณ์ของ blog นี้ไปนะครับ (ด้วยความเคารพนะครับ คุณ TThai)
      จริงๆ ประเด็นที่คุณทฤษฎีนำมาเปิดเผยไม่เกี่ยวกับความสามารถทางตนตรีของคุณบัณฑิตเลยนะครับ
      ไม่มีความคลางแคลงใจกับฝีมือ และความเป็นระดับโลกของคุณบัณฑิตแต่ประการใด
      ประด็นมันเกี่ยวกับจรรยาบรรณ และมารยาทของศิลปิน และ การคุ้มครองสิทธิอันพึงได้รับข้อมูลที่ถูกต้องของผู้บริโภคมากกว่า
      ผมพูดเช่นนี้ถูกต้องมั้ยครับคุณทฤษฎี

      • UknowWhoisme says:

        @TTHA อย่าจับแพะชนแกะเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้างมาประนามชาวบ้านเลยครับ
        เอาประเด็นหลักคือ ไม่ให้เครดิต และไม่เขียนให้ชัดในแพคเกจ
        ไอ้ประวัติ แนวคิดชีวิต ส่วนที่ดี ก็เรื่องจริง

        อย่าเอาแพะมาชนมั่วๆเลยครับ ไม่งาม
        อะไรผิดว่าตามผิด อันไหนถูก

    • mrbancha says:

      ขอแก้ต่างให้คุณบัณฑิตหน่อยนะครับ คือคุณบัณฑิตไม่ใช่จอมปลอมนะครับ ชื่อเสียง และรางวัลที่ท่านได้มาจากเมืองนอกเป็นเรื่องจริง (อันนี้คงไม่กล้า make ขึ้นมาแน่ เออ ไปตรวจสอบซะหน่อยก็ไม่เลวนะ หะหะ) ฝีมือก็ต้องมีอย่างแน่นอนครับ แต่ประเด็นของคุณทฤษฎีคือ เรื่องการสร้างความเข้าใจผิดให้แก่ผู้บริโภค และจรรยาบรรณในฐานะศิลปินที่ไม่ให้เกียรติเจ้าของผลงาน และทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นผลงานของตัวเองต่างหากครับ

      ถ้าเราใช้คำรุนแรงอาจเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง และทำลายการวิพากย์อย่างใช้เหตุใช้ผล และสุภาพไปได้ครับ

      เอาแค่ข้อมูลเชิงประจักษ์อย่างเดียวก็อ่อมแล้วละครับ

      • anucha says:

        ผมคิดว่าไม่มีใครสงสัยในความสามารถของคุณบัณฑิต แต่สิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นก็คือ น่าจะมีคำขอโทษจากผู้ที่เกี่ยวข้อง มากกว่าการจะพยายามบอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่เมืองนอกก็ทำหรืออะไรทำนองนี้ ประเด็นมันชัดเจนมาก การที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดแม้ว่า เราไม่ตั้งใจ เรายังต้องขอโทษเลยกับความรู้สึกของคนหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น

  11. มังคุด says:

    ตามๆ เขามา แต่ขอขอบคุณมากๆ เลยค่ะ จะได้ไม่ชื่นชมคนผิดๆ

  12. poohz says:

    ขออนุญาตนำไปแปะในเฟสบุ๊คด้วยคนครับ

  13. OkG says:

    ตอนนี้มีคนตั้งกระทู้ในเฉลิมกรุง@pantip.com แล้วครับ
    http://www.pantip.com/cafe/chalermkrung/topic/C9724587/C9724587.html
    ถ้าเอารายละเอียดไปลงที่นั่น น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้คนในวงกว้างนะครับ

  14. Peter says:

    อึ้งเลยครับ

    แอบชื่นชมผลงานมานาน ไม่นึกว่าจะมีเบื้องหลังแบบนี้

    เศร้า ครับ

  15. ananlada says:

    สังคมตะวันตกให้ความสำคัญกับการให้ credit ผลงานของผู้อื่นมาก (พูดในฐานะที่ไปอยู่มาหลายปี) ทั้งในเรื่องของกฏหมายลิขสิทธิ์ การอ้างถึง (reference) แหล่งข้อมูลต่างๆ การนำเอางานเขียนของคนอื่นแม้เพียงประโยคสองประโยคมาใส่ในงานตัวเองโดยไม่อ้างถึงแหล่งที่มา หรือที่เรียกกันว่า plagiarism เป็นสิ่งที่ถูกประนามในวงวิชาการ

  16. ป้านก says:

    แวะมาทักทายน้อง PIZZA จ้า

  17. janjira6115 says:

    – -*
    อ่านแล้วรู้สึกแย่มากค่ะ
    เราชื่นชมมาก ถึงไม่เคยอุดหนุนแผ่นซีดี แต่ก็ยังมีพอคเกตบุ๊ค ต่างๆ
    ชื่นชมในฐานะคนจริงค่ะ เพราะไม่อย่างนั้นคงอยุ่จุดนั้นไม่ได้

    แต่เมื่ออยู่ที่จุดนั้นได้แล้วทำอย่างนี้ คนไทยทั้งหลายที่ภูมิใจ คงรู้สึกแย่มากๆ

  18. SoulJackaz says:

    เจอมาจากทวิตของคุณแคน สาริกา ขอเอาไปแชร์หน่อยนะครับ ละเอียดดีมากๆครับ

  19. teddydean says:

    ไม่คิดเลยว่าเค้าจะทำเรื่องแบบนี้ได้ หมดความเชื่อถือเลยค่ะ
    ขอบคุณมากนะคะที่ทำให้ได้เรียนรู้ข้อมูลเหล่านี้

  20. yuttipung says:

    สังเกตดูที่บางแ่ผ่นจะเขียนคำว่า “คัดสรร” ในท้ายแผ่นครับ ถ้าเป็นคนฟังเพลงซื้อแผ่นบ่อยๆ ก็เข้าใจได้ แต่ก็เหมือนโดนหลอกนิดๆ อยู่ดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการไม่ให้เครดิต แม้แต่แผ่นเพลงคลาสสิคราคาไม่แพงเขายังให้เลยนะครับ

  21. นิ says:

    มี Mosart in love ของบริษัทนี้อยู่แผ่นนึงเหมือนกันค่ะ
    เครดิตตัวเล็กหลังที่ใส่แผ่นเหมือนกัน = =

  22. SorbetKiss says:

    😦

    ทำงี้ได้ไง เสียชื่อเสียแซ่

  23. KSB says:

    ขอนำไปเผยแพร่ใน facebook เพื่อสร้างความเข้าใจให้กับเพื่อนอีกหลายๆ คน 🙂

  24. Paul says:

    Actually I’ve never attend any concert conducted by Bundit, sure he’s good enough in the international classical music community.

    Can’t believe he did deceived the people by himself,
    may be his staff? I think.

    But, he claimed he’s a presenter and producer!

    He should know in his heart “what he did is severely wrongful.”

  25. ทาเคชิ says:

    ถ้าไม่มีข้อความจากเจ้าตัว ที่ออกมายอมรับ ก็ยังจะคิดว่าน่าจะเป็นแผนการตลาดที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่อง

    แต่ พอเห็นข้อความนั้นแล้ว บอกได้คำเดียวว่า ผิดหวัง และเลิกนับถือคนเลวๆอีกต่อไป

  26. sniffer says:

    อ่านแล้วเห็นด้วยกับคุณ ทฤษฎี เป็นอย่างมากคับ

    เราควรจะทำให้ชัดเจน ถือว่าเป็นการให้เกียรติเจ้าของเพลงเค้า ครับ

  27. โอ้ว เดี๋ยวต้องขอตามไปดู facebook ด้วยคนครับ

  28. ขอเผยแพร่ต่อให้ โลกรับรู้..

    เศร้าแฮะ คิดว่าเป็นคนทะเยอทะยาน ทื่น่าจะ

    “ใช้ได้”

    คนนึง ซะอีก

  29. จิรภัทร says:

    ผมไม่เห็นว่าการทำแบบนี้จะทำให้คนไทยเข้าถึงได้มากขึ้น
    ผมถามจริงๆเถอะ แผ่นคุณบัณฑิตมันถูกมากเลยหรอครับ ?

    ในทัศนคติผมยังไงมันก็ยังแพง ถ้าคนไม่รู้จักดนตรีประเภทนี้เพิ่งหัดฟัง เค้าคงไม่มาลงทุนกับแผ่นราคา300 ขึ้นไปหรอกครับ
    ผมเชื่อมั่นนะ เชื่อว่าถ้ามันของดีจริงๆ ยังไงคนก็ซื้อ

    ตัวอย่างที่ประจักษ์คือ สมัยนี้เพลงเกาหลีเข้ามามีบทบาทมาก concert ตั๋ว 4500 คนก็ยังเต็ม

    ผมเห็นว่า ถ้าคนเค้ารักอะไรจริงๆ แพงแค่ไหนเค้าก็จะหามาครับ ผมว่ามันอ้างไม่ได้หรอก

    ผมว่าถ้าท่านกลับไปทำ 1 2 3 unity ต่อคงจะดูดีกว่านี้

  30. Cliff says:

    Pizza..นายแน่มาก..ฮ่าๆๆ

  31. bkkung says:

    ตายๆ แบบนี้ผมจะไปซื้อซีดีอะไรสักแผ่ีน แต่เปิดมาเป็นไมเคิ้ล แจ็คสันขึ้นมาทำไง แล้วมันก็ไม่ืถือเป็นเรื่องผิดด้วยสินะ…

  32. maggy says:

    อ่านแล้วประทับใจ ได้ความรู้เพิ่มว่าคนเราหนอ โกงได้ทุกวิธี แถได้เรื่อยๆ นี่ถ้าคุณไม่นำเรื่องนี้มาเปิดเผยคงมีคนไม่รู้โดนหลอกอีกเยอะ และผมเองก็จะได้จำไว้ ถ้าเห็นเพื่อนหรือใครจะซื้อแผ่นของคุณบัณฑิต อึ้งรังษี ผมจะได้เตือนให้ระวัง อย่าหลงผิดซื้อของโจร

  33. mudsee says:

    “จุดประสงค์ที่ผมทำซีดีชุดนี้คือ ต้องการให้ดนตรีคลาสสิกเข้าถึงคนไทยได้อย่างไม่แพง พยายามหาวิธีมานานแล้ว วิธีนี้เหมือนได้ผล เพราะได้รับการตอบรับที่ดี”คุณบัณฑิตทุ่มมากไปรึเปล่าคะ?….เอาตัวเข้าแลกเลยนะนั่น!

  34. มติชนออนไลน์ says:

    อยากจะขออนุญาตคุณทฤษฎี นำบทความนี้ไปเผยแพร่ต่อในมติชนออนไลน์ได้ไหมครับ

  35. คนที่ผ่านมา says:

    ขออนุญาตเอาลงเฟซบุ๊คนะเจ้าค่ะ

  36. อนันต์ ลือประดิษฐ์ says:

    ขอบคุณครับ ผมได้แชร์ไว้ใน facebook.com/rakmusic

  37. ponganan says:

    -ขออนุญาตแชร์ืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืืลงเฟซบุคนะครับ

  38. v3 says:

    ผมชอบของแท้ ของจริง ลูกผู้ชายตัวจริง

  39. Mawin007 says:

    แล้วรายชื่อStaffในแผ่นคุณบัณฑิตหายไปไหนหมดล่ะครับ

  40. kanokwan says:

    ขอนำไปแชร์ในเฟซบุ๊คต่อนะคะ

  41. Numb says:

    ขอชื่นชมคุณ ทฤษฎี ขอบคุณมากค่ะ

  42. Thanatip says:

    ขอบคุณสำหรับการค้นหาข้อมูลอย่างละเอียด ขอบคุณสำหรับการวิพากษ์ที่เอาเหตุผลเป็นที่ตั้ง ที่ทำให้เมื่อได้อ่านบทความนี้แล้ว ก็ไม่ทำให้รู้สึกเกลียดใคร (เพียงแต่อาจจะผิดหวังหน่อยๆ) และก็ทำให้ได้ข้อคิดอย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าวงการไหน หากเมื่อไหร่ที่เราปล่อยให้ “อัตตา” ใหญ่โตเกินไป ก็อาจทำให้เรามองเห็นคุณค่าของคนอื่นน้อยลง … ขอให้สร้างสรรค์งานดีๆ ที่อยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรมต่อไปนะคะ

  43. m says:

    Anyone has detail about his symphony orchestra conducting? Any link? Any web site?

    • toru-kun says:

      ไม่ต้องสงสัยหรอกครับเรื่องการแข่งขัน อันนั้นงานใหญ่จริงอะไรจริง

  44. m says:

    Anyone has detail about his symphony orchestra conducting award/ competition that he win? Any link? Any web site?

  45. ipattt says:

    ผมคิดว่าวงการนี้ดราม่าเยอะเกินไปครับ
    ถ้าเราเปิดใจให้กว้าง เราน่าจะไปกันได้ไกลกว่านี้เยอะ

  46. Pingback: Top Posts — WordPress.com

  47. จุดจุดจุด says:

    เมื่อเดือนก่อนได้เห็นซีดีที่ว่านี้ในร้านซีเอ็ดบุ๊คเหมือนกันค่ะ และเช่นเดียวกันกับคุณทฤษฎีบอกไว้ การเขียนหน้าปกแบบนั้น ใช้รูปแบบนั้น มันทำให้เราเข้าใจว่ามันคืองานที่อำนวยเพลงโดยคุณบัณฑิต และมันก็จูงใจให้เราซื้อได้จริงๆ เนื่องจากชื่อเสียงของคุณบัณฑิต …
    ขอบคุณที่ให้ความกระ่จ่างค่ะ

  48. จุดจุดจุด says:

    ขออนุญาตนำไปแชร์ในเฟซบุ๊คนะคะ

  49. jane says:

    This Bundit guy is a freaking liar.
    I did an interview with him years ago when he came back to BKK, in his home.
    He is snobbish, hot-tempered and throws lamps and things on the desk.
    His younger brother was so embarassed with Bundit’s attitude.
    How can a well-established, renowned conductor possess this kind of degrading attitude.
    How embarassing for Thailand.
    Witnesses ?
    My cameraman was there at the scene.
    He was shocked too.

    PS… BUndit came late for the meeting, instead of apologizing, he expected us to apologize. Pehaps Bundit was not used to Thailand hot weather, that was why he exploded.

    What a conductor !!!!

  50. M&M says:

    ไม่เห็นด้วยกับการให้ข้อมูลผู้ซื้อไม่ครบ ว่าแต่อ่านแล้วสลดใจที่วงการเพลงคลาสสิคมีแต่สาดโคลนใส่กันเพื่อให้ค่ายตัวเองดูดี

    ถ้าพูดถึงเรื่องลิขสิทธิ์ทาง คุณทฤษฏี กับคุณสมเถาก็ใช่ย่อย เวลาแสดง concert ก็เอาแผ่นผีมาขาย บางครั้งขายกันที่ศูนย์วัฒนธรรมด้วยซ้ำ อย่างนั้นจะมาพูดเรื่องลิขสิทธิ์ศิลปินได้อย่างไร

    สิ่งที่คนอื่นทำ ไม่ให้ credit ศิลปิน ให้ข้อมูลไม่ครบ แต่เขาก็ยังจ่ายค่าลิขสิทธิ์ สาดโคลนกัน แต่ตัวเอง ขายหรือสนับสนุนแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์แล้วจะมาบอกว่าปกป้องคนดนตรี ตอนสาดโคลนใส่คนอื่นก็แย่พอกันนะ

    • fristo says:

      “สนับสนุนแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์” “เอาแผ่นผีมาขาย”
      เกิดขึ้นตอนไหน เมื่อไหร่ อย่างไร มีรูปถ่ายเป็นหลักฐานหรือเปล่าครับ?

      ไม่ใช่ไม่เชื่อนะครับ แต่ผมสนับสนุนการแต่แผ่ความจริงอย่างมีหลักฐานครับ มิใช่หลักลอย

      คุณทฤษฎีออกมาชี้แจงโดยมีัหลักฐานแบบนี้คือชี้แจงความจริงที่พิสูจน์ได้ครับ
      แต่ที่คุณออกมากล่าวหาคนอื่นโดยไม่มีหลักฐาน แบบนี้นี้แหละครับ เรียกว่าสาดโคลน

  51. chana says:

    1.คุณB ไม่ได้โกหก แต่พูดความจริงไม่ครบ
    2.สำหรับนักดนตรีแล้ว ลักษณะการเขียนความจริงไม่ครบแบบนี้ ยากที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ แต่ชาวบ้านที่ไม่ได้อยู่ในวงการน่าจะเข้าใจผิดเสียส่วนใหญ่
    3.ทางกฏหมายไม่ผิด แต่ทางศีลธรรม ยังหมิ่นเหม่ และไม่ค่อยสง่างามนัก
    4.คุณทฤษฎี ไม่น่าจะทำกับเพื่อนร่วมวงการอย่างนี้เลย เรื่องนี้ ปล่อยให้เป็นเรื่องของ Gossip น่าจะดีกว่า เพราะของแบบนี้ เข้าใจได้ไม่ยาก เพราะการทำแบบ Agrressive นี้ ไม่เป็นผลดีต่อใครทั้งสิ้น ไม่ว่าจะ คุณ B เอง คุณ ทฤษฎี และวงการดนตรีคลาสสิค เพราะแสดงถึงการขาดความเมตตาธรรมของคนในวงการระดับ Top ของวงการ
    5.ด้วยความหวังดี อยากให้สติคุณทฤษฎี ขอให้ท่านได้ข่มใจที่จะโต้ตอบ จม.ของคุณ Salmon และขอภาวนาให้เรื่องมันไม่บานปลายไปกว่านี้ครับ
    ขอบคุณครับ

    • PC says:

      เห็นด้วยครับ แต่ขออนุญาตแย้งสองเรื่องครับ ต้องขอบอกก่อนว่าผมไม่ใช่นักดนตรีครับ (เป็นอาจารย์) ในทางวิชาการแล้ว เรื่อง Plagiarism เป็นเรื่องร้ายแรง การอ้างถึงผลการทดลองของนักวิจัยท่านอื่นๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระบุ reference เสมอ ถือเป็นสิ่งสำคัญนอกจากจะเป็นการให้เครดิตกับผู้ทำการวิจัยแล้ว ยังช่วยให้สามารถย้อนกลับไปศึกษาวิธีการจากต้นทางได้อีกด้วย

      2. กรณีนี้เราไม่สามารถแบ่งแยกระหว่าง “คนในวงการ” กับ “คนนอกวงการ” ครับ คนที่อยู่ในวงการต่างก็เคยอยู่นอกวงการมาแล้วทั้งนั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนนอกวงการที่ต้องการศึกษาเพื่อที่จะ “เข้าวงการ”แล้ว ความเข้าใจที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญครับ

      4. ผมคิดว่าเป็นหน้าที่และความจำเป็นสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนใน หรือคนนอก ที่จะทำการตรวจสอบ และทักท้วงในสิ่งที่ผิด รวมไปถึงการมีบทลงโทษที่เหมาะสมโดยผู้มีอำนาจ (เช่น หากเป็นอาจารย์ก็จะถูกตั้งกรรมการสอบจริยธรรม) การทำหูเอานา เอาตาไปไร่ แล้วทิ้งให้เรื่องนี้อยู่ในวง gossip ไม่ใช่”เมตตาธรรม”นะครับ แต่มันเป็นการหมักหมมบ่มเพาะปัญหา เป็นสิ่งที่ทำให้วงการคลุมเครือ ไม่โปร่งใส และเป็นการเอาเปรียบกับผู้ที่ตั้งใจจริงในการสร้างสรรค์ผลงานหรืองานวิจัย ความเมตตานั้นต้องไม่มองที่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่ต้องเมตตาทั้งระบบทั้งผู้ที่ทำผิดและผู้ที่ทำถูกครับ

      • chana says:

        ผมเตือนเพราะผมมองในภาพรวม
        ในใจคุณ T ผมไม่รู้ว่าแท้จริงนั้นเขาเป็นอย่างไร มีความอิจฉาริษยา เพื่อนร่วมอาชีพหรือไม่ เขาเท่านั้นที่จะรู้ดี

        แต่ในโลกของความเป็นจริงแล้ว ถ้า …… ถ้านะครับ ถ้าเขาริษยาคุณ B
        ทัศนคติแบบนั้นเป็นผลร้ายต่อตัวเขาเอง อัตตาของเขา จะทำลายเขาเอง ผมจึงเตือนให้สติเขา

        จริงอยู่ คุณ B แกไม่ถูก ผมไม่ได้บอกว่าแกถูก แต่ถ้าเรารักเพื่อนร่วมอาชีพ รักอาชีพ เรามีวิธีการที่ดีกว่านี้เยอะ

        ส่วนผู้บริโภค ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ถ้าเขาเกิดรู้ว่าโดนหลอก คุณ B แกก็เสียของแกเอง ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้นครับ

        ส่วนคนที่เสพดราม่า แน่นอนครับ มันมันส์ มันสนุกแน่ทีเห็นคนกัดกัน แต่พอเหตุการณ์ผ่านไปสักพัก คนที่กัดกัน เท่านั้นแหละครับ ที่บาดเจ็บทั้งคู่ คนดูไม่เกี่ยว

  52. chana says:

    ข้อ5 . แก้ไข

    ผมหมายถึงจม .ของคุณ salmon ที่คุณ B เอามาลงในBlogของเขาน่ะครับ(ปัจจุบัน)

  53. Fringer says:

    ค่อนข้างมั่นใจว่ากรณีนี้เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค ผิด พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภคค่อนข้างชัดเจนนะคะ โดยเฉพาะมาตรา 22(2) นิยาม “ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค” ตอนหนึ่งว่า “(๒) ข้อความที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการไม่ว่าจะกระทำโดยใช้หรืออ้างอิงรายงานทางวิชาการ สถิติ หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งอันไม่เป็นความจริงหรือเกินความจริงหรือไม่ก็ตาม”

    ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายฟ้องแบบรวมกลุ่ม (class action) ทำให้ไม่คุ้มค่าที่จะฟ้องดำเนินคดีกับสินค้าที่มีมูลค่าไม่สูงมาก แต่ใครก็ตามที่ซื้อซีดีหลอกลวงพวกนี้มา น่าจะไปร้องเรียนต่อ สคบ. ให้เขาได้ติดต่อคุณบัณฑิตอย่างเป็นทางการ อย่างน้อยก็จะได้แก้ไขปกซีีดีให้สะท้อนข้อเท็จจริง

    ขอบคุณคุณทฤษฎีค่ะ 🙂

  54. สังเกตุการณ์ says:

    ผมไปเจอนี่มาใน http://bunditinspire.blogspot.com/ คุณบัณฑิต บอกว่าเป็นจุดยืนของเจ้าของลิขสิทธ์

    แต่ผมว่าใน blog นี่ไม่มีใครกล่าวหาว่า คุณบัณฑิต ทำผิดกฎหมายนะ แค่ทำเรื่องที่ไม่สมควรอะ น่าจะยอมรับอย่างแมนๆแล้วแก้ไขนะ – -“

  55. จรัส says:

    คุณ ทฤษฎี ให้ข้อมูล แถมสืบสวนมาละเอียดมากเลยครับ

  56. m says:

    Dear Mr Keith Salmon

    I ‘ve found your email correspondence to khun Trisdee na Patalung on khun Bundit Ungrangsee Blog:
    http://bunditinspire.blogspot.com/2010/09/blog-post_24.html
    Part on your email mentioned that you hadn’t given consent your other email to be published. But this personal email to khun Trisdee na Patalung was forwarded from you, to Mary Jane Jone, khun Bandit’s wife. I suppose that you gave khun Bundit consent to publish your email now, which means you are ready for public discussion and not afraid to show to public on your side taking.

    I know that you tried to help your client, khun Bundit Ungrangsee and Inspire Music in the way you have done and doing. You highlighted your current position that your clients have done nothing illegally in that matter.

    I am so sad in that fact that you only concerned on evidence of legality matter but not the cultural etiquette and moral. Though it was so apparent that khun Bundit and inspire Music’s CD albums have been so deceptive. It is no way that people can know that his CD is not conducted by him before purchasing because the package is sold sealed. Even after opening the package, the information is so well hidden. It’s well hidden enough that no one discovers it for years until someone found it and speak up. You may say/think it was not your client’s intention but this is beyond intention. It is how it appears. He may not feel shame for his action but it is so shameful to have such member in classical music society in Thailand.

    Finally I would say that I do recognize that you mean to help out your client but you cannot not help him in the way you have done and doing. If you are a gentleman who has moral sense, please discontinue your support to the client that uses your product to bait and scam people. Please contact your client to immediately to withdraw the packaging and print your name as the conductor clearly on the front cover of the CDs. Please tell him to ask for apology publicly, admit his deceptive intention sincerely and promise not to do that again. This is the only way to save his reputation that he has left.

    Regards,

    Ben Lai

  57. m says:

    เรียนคุณ คีธ แซลมอน

    ผมได้พบอีเมลจากคุณถึง คุณ ทฤษฎี ณ พัทลุง ที่บล็อกของคุณบัณฑิตอึ้งรังษี :
    http://bunditinspire.blogspot.com/2010/09/blog-post_24.html
    บางส่วนในอีเมลของคุณกล่าวว่าคุณไม่ได้ให้ความยินยอมให้คุณ ทฤษฎี เผยแพร่อีเมล แต่ในอีเมล์ส่วนตัวคุณถึง คุณทฤษฎี ณ พัทลุงฉบับนี้ถูกส่งต่อมาจากคุณ ถึงคุณMary Jane Jone, ภรรยาของคุณบัณฑิต คุณให้ความยินยอมกับคุณบัณฑิตในการประกาศเนื้อหาในอีเมล์ของคุณ ซึ่งหมายความว่าคุณพร้อมสำหรับการอภิปรายสาธารณะ และไม่กลัวที่จะแสดงต่อสาธารณชนใน การเลือกข้างของคุณ

    ผมเข้าใจคุณที่ คุณพยายามช่วยลูกค้า( คุณบัณฑิตอึ้งรังษีและ Inspire Music ) ในแบบที่คุณได้ทำและกำลังทำ โดยการที่คุณเน้นว่า ลูกค้าของคุณไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย

    ผมรู้สึกเศร้าใจมากในความเป็นจริงที่ว่าคุณสนใจเฉพาะในหลักฐานความผิดตามกฎหมาย แต่ไม่สนใจมารยาททางวัฒนธรรมและจริยธรรมที่ แม้จะปรากฏว่า อัลบั้มซีดีของคุณบัณฑิตและInspire Music มีลักษณะเป็นกลลวงอย่างชัดเจน มันไม่มีทางที่คนสามารถรู้ว่าแผ่นซีดีของเขาไม่ได้ คอนดักท์โดยเขาเองก่อนที่จะซื้อแพคเกจขายที่ปิดสนิท แม้หลังจากการเปิดแพกเกจข้อมูลก็ถูกซ่อนไว้ใอย่างดี มันซ่อนได้ดีพอที่ไม่มีใครค้นพบมันเป็นเวลาหลายปี จนมีคนพบและพูดขึ้น คุณอาจพูด / คิดว่ามันไม่ได้เป็นเจตนาของลูกค้าของคุณ แต่นี่เป็นเริ่องที่เกินกว่าความตั้งใจหรือไม่ มันเป็นรูปแบบผลงานที่ปรากฏออกมาอย่างที่เห็น เขาอาจจะไม่รู้สึกละอายใจในกระทำของเขา แต่มันน่าอับอายที่จะมีสมาชิกดังกล่าวในสังคมดนตรีคลาสสิกในประเทศไทย

    สุดท้ายผมอยากบอกว่าผมเข้าใจคุณ ที่คุณต้องปกป้องลูกค้าของคุณ แต่คุณไม่สามารถช่วยเขาในแบบที่คุณได้ทำและกำลังทำอยู่ ถ้าคุณเป็นสุภาพบุรุษที่มีความรู้ชอบ ชั่ว ดี โปรดยุติการสนับสนุนของคุณกับ ลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของคุณเพื่อล่อเหยื่อและหลอกลวง โปรดติดต่อลูกค้าของคุณ ให้เรียกคืนผลิตภัณฑ์พิมพ์ชื่อของคุณเป็นคอนดักเตอร์อย่างชัดเจนบนปกหน้าของแผ่นซีดีทันที กรุณาบอกให้เค้าขอโทษสาธารณชนยอมรับผิดที่เขาตั้งใจหลอกลวงด้วยความจริงใจ และสัญญาว่าจะไม่ทำเช่นนั้นอีกต่อไป นี่เป็นวิธีเดียวที่จะรักษาชื่อเสียงของเขาที่เขาที่ยังเหลืออยู่

    ขอแสดงความนับถือ
    Ben Lai

  58. Ploy says:

    อ่านแล้วเสียความรู้สึกกับคุณบัณฑิตจัง ชื่นชมคุณทฤษฎีนะคะ

    ขออนุญาต นำไปลง facebook ด้วยค่ะ

  59. Somsak Siripong says:

    I knew he is fake long time ago. Some years back, he was on TV and he told the Carnegie Hall joke. You know, about a tourist asked a man how he can get to Carnegie Hall, and the man said, “Practice, practice and practice.”

    But the way he told it, he made it sounded that it actually happened to him, i.e. he was asked by a man and he told him to “Practice, practice and practice.”

  60. Lutz ลุทซ์ says:

    Maybe Mr. B. will make some short-time profit but those who are really interested will know who is an artist worth our attention and appreciation. Never heard of B. Whereas Trisdee is working hard in Thailand and elsewhere and has his merits.

  61. เอกชัย ไชยนุวัติ says:

    ผมได้มีโอกาสสื่อสารกับทั้งคุณ บัณฑิต และ คุณ ทฤษฎี แล้ว คิดว่าเรื่องนี้น่าจะจบได้ด้วยดีครับ ผมเป็นนักกฎหมายและได้ชี้แจงให้คุณบัณฑิตทราบว่า ความคิดเห็นของคุณทฤษฎีนั้นมีเหตุผลพอสมควร เรื่องจากว่า ผู้บริโภคทั่วไป เห็นรูปท่านทั้งหน้าและหลังปกซีดี รวมทั้งที่แผ่นด้วย แต่มีคำเล็กๆที่ปกหลังเพียงว่า “คัดสรร” เพลง อยู่1 ท่อน ทำให้ผู้บริโภค และประชาชนทั่วไปสามารถ เข้าใจผิดได้ว่าท่านกำกับเองทั้งหมด และผู้บริโภคไม่สามารถรู้ได้จนกว่าจะได้จ่ายเงิน(อันนี้สำคัญมาก)และแกะซองพลาสติกออก (ผมเน้นคำ”ผู้บริโภค”เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับ พรบ คุ้มครองผู้บริโภค ปี 2551) คุณบัณฑิตเข้าใจถึงคำอธิบายและได้สื่อสารกับผม และทางบล๊อคของท่านแล้วว่า ได้ให้บริษัท Inspire Music จัดทำsticker ติดเพิ่มเติมให้เห็นเด่นชัดและให้ชัดเจนสาระสำคัญว่า ท่านคัดสรรเท่านั้น(ไม่ได้กำกับ) ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคเห็นและเข้าใจได้ชัดว่า ตัดสินใจบริโภค เพลงที่ คุณบัณฑิต คัดสรรเท่านั้น(ไม่ได้กำกับ) ดังนั้นเรื่องนี้จึงน่าจะจบได้ในทางกฎหมาย ผมคิดว่านักดนตรีทั้ง2ท่าน น่าจะสามารถพูดคุยกันอย่างมืออาชีพได้ในเวลาที่เหมาะสม โดยไม่ต้องมีการพิพาทกันถึงศาล กรณีนี้น่าจะดีที่สุด ดังนั้นโดยสรุป ผมหวังว่าเรา คนไทยด้วยกัน อาจกระทบกันบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา แต่ยังไงเราก็คุยกันได้นะครับ

  62. ตามมาอ่านจากที่เพื่อนไปโพสท์หัวข้อนี้ไว้ใน FB ครับ..ส่วนตัวแล้วผมได้ความรู้เยอะมากเกี่ยวกับกรณีนี้ ขอให้กำลังใจทั้งสองฝ่ายครับ…

  63. วิภาต says:

    พิซ่า สู้ๆครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ ^^

  64. idoodee says:

    ความรู้สึกส่วนตัวนะคะ ชอบคุณบัณฑิต มาก่อน กับผลงาน กับงานเขียนที่ได้อ่าน
    แต่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากเรื่องนี้แล้ว รู้สึกว่าโดนดูถูก รู้สึกว่าคุณบัณฑิต ดูถูกคนไทย (ถ้าเป็นที่ยุโรป คงไม่ทำ) เพราะคนฉลาดเยอะ ให้คุณค่างานของคนอื่น และไม่หลอกตัวเอง

    แต่นี่เพราะเป็นเมืองไทย คนไทยง่ายๆ ฉาบฉวย ไม่เข้าใจอะไรอย่างลึกซึ้ง ดูแค่เพ็คเก็จ ก็คงจบกันไม่ใส่ใจ
    และในโลก ของดนตรีคลาสสิค จะมีสักกี่คนที่รู้จริง ขอบคุณคุณ ทฤษฎี มากๆค่ะ

    ที่ทำให้คนไทย ฉลาดขึ้น

  65. nklohit says:

    ขอนำไปแชร์ในเฟสนะครับ

  66. Aventra says:

    ชื่นชมคุณทฤษฎีสุด ๆ ถ้าไม่มีคุณ เค้าก็คงหลอกลวงชาวบ้านต่อไป
    ผมเอาบทความของคุณไปให้เพื่อนผมที่เป็นแฟนขับของบัณฑิตอ่าน
    ยังยอมรับไม่ได้และต่อว่าคุณว่าพยายามเลื่อยขาเก้าอี้บัณฑิตเค้า

    น่าอนาจกับสังคมไทยจริง ๆ แฟนขับของบัณฑิตเท่าที่เห็น
    ก็เป็นคนมีการศึกษา และมีรสนิยมทั่วไปสูงทั้งนั้น
    แต่ไม่น่าเป็นเหยื่อของ Marketing ง่าย ๆ ของเค้าเลย

  67. Pita says:

    ขอบอกตรงๆ ว่าผิดหวัง ความเก่งอย่างเดียวไม่เพียงพอ ขออนุญาตเอาไปแชร์ในเฟสบุคนะคะ

  68. น้องทำถูกต้องแล้วครับ ขอบคุณที่ตามหาความจริงมาบอกพวกพี่ทุกคน
    ขณะนี้ พวกพี่ๆหลายคนกำลังติดตามเรื่องนี้อยู่ครับ

  69. otto says:

    เคยอ่านหนังสือของคุณ B เล่มแรกแค่เล่มเดียว
    ความรู้สึกแรกของผมก็คือ “ทำไมต้องโอ้อวดกันขนาดนี้”
    ผิดกับภาพในโฆษณาที่ดูนอบน้อมถ่อมตน ตอนไปถามทางไปคาเนกีฮอล

    หลังจากนั้นก็ไม่เคยหยิบหนังสือของคุณ B มาอ่านอีกเลย

    ช่วงนั้นผมเป็นเจ้าของร้านหนังสือครับ อ่านหนังสือเดือนนึงประมาณ 10-20 เล่ม

  70. เอกชัย says:

    พฤติกรรมลวงโลก ดูถูกคนไทย

  71. ooo says:

    อึ้งกันไป จะด้วยเหตุผลการตลาด มักง่าย หรืออื่นๆก็แล้วแต่
    ครั้งนี้คงเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับคุณบัณฑิตทีเดียว

    การที่บอกว่า “เมืองนอกเขาทำกัน” มันก็ดูจะเป็นคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น
    แต่การที่จะบอกว่า “ไม่มีแน่ๆในโลกตะวันตก” แน่ใจแล้วหรือคะ
    ไม่ทราบว่าอย่างกรณีเพลง
    จะเพียงพอกับการที่จะบอกว่า “มันก็มีในโลกตะวันตก” ไหมคะ

    ไม่ได้จะบอกว่า เขาก็ทำ แล้ว เราทำตาม จะเป็นสิ่งที่ดี
    แต่อยากบอกว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับเชื้อชาติหรอกนะคะ
    ไม่ใช่ว่า บัณฑิตทำ คนไทยทุกคนก็คงทำเหมือนกัน
    หรือ Elton John ไม่ทำ ฝรั่งทุกคนก็คงไม่ทำ

    เห็นด้วยกับความคิดของ คุณเอกชัย ไชยนุวัติ ค่ะ

  72. ooo says:

    อึ้งกันไป จะด้วยเหตุผลการตลาด มักง่าย หรืออื่นๆก็แล้วแต่
    ครั้งนี้คงเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับคุณบัณฑิตทีเดียว

    การที่บอกว่า “เมืองนอกเขาทำกัน” มันก็ดูจะเป็นคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้น
    แต่การที่จะบอกว่า “ไม่มีแน่ๆในโลกตะวันตก” แน่ใจแล้วหรือคะ
    ไม่ทราบว่าอย่างกรณีเพลง Return to Innocence
    จะเพียงพอกับการที่จะบอกว่า “มันก็มีในโลกตะวันตก” ไหมคะ

    ไม่ได้จะบอกว่า เขาก็ทำ แล้ว เราทำตาม จะเป็นสิ่งที่ดี
    แต่อยากบอกว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับเชื้อชาติหรอกนะคะ
    ไม่ใช่ว่า บัณฑิตทำ คนไทยทุกคนก็คงทำเหมือนกัน
    หรือ Elton John ไม่ทำ ฝรั่งทุกคนก็คงไม่ทำ

    เห็นด้วยกับความคิดของ คุณเอกชัย ไชยนุวัติ ค่ะ

  73. KRIT says:

    ถ้าเจ้าของงานเขาไม่เดือดร้อน แล้วทำไมคุณทฤษฎี ณ พัทลุง ถึงเดือดร้อนแทนล่ะครับ

    และงานเพลงของเมืองไทย ส่วนใหญ่ ก็ลอกทำนอง เนื้อหา มาจากต่างประเทศมากมาย
    แปลว่า คุณจะค้นหามาเผยแพร่ด้วยหรือไม่

    ผมว่า ถ้ามีเวลาว่าง ควรเอาเวลาไป จับผิดนักการเมือง ที่ทุจริต ดีกว่าครับ จะเป็นประโยชน์
    ต่อ ชาวไทย มากกว่า

    เพราะการมา ดิสเครดิตกันเอง ในนักดนตรีประเภทเดียวกันนี้ ไม่ทำให้ใครดีขึ้นมาได้ครับ

    • trisdee says:

      ผมไม่ได้เดือดร้อนแทนเจ้าของงานครับ แต่ผมเดือดร้อนแทนผู้บริโภคที่ซื้อแผ่นไปหรือจะซื้อในอนาคตโดยที่ไม่รู้ (คือถ้ารู้แล้วว่าไม่ใช่คุณบัณฑิตแต่ก็อยากซื้อไปเพื่อฟังเพลงก็เป็นเรื่องดีครับ แต่ขอให้ผู้บริโภคเขารู้) ซึ่งดูจากเสียงตอบรับก็ให้ได้ชัดอยู่แล้วว่าคนส่วนใหญ่ไม่ทราบมากก่อน แล้วถ้าไม่ใช่เรื่องช็อควงการจริงๆ ก็คงจะไม่กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งแบบนี้ไปได้แน่ๆครับ

      แล้วที่คุณ KRIT บอกว่าไม่ทำให้ใครดีขึ้นมาได้… แล้วการที่ผู้บริโภคที่ได้รู้ทันขึ้นมาในเรื่องนี้ มันนี่ไม่ใช่เรื่องดีเหรอครับ? หรือว่าเราควรจะตั้งใจปล่อยให้เขาไม่รู้ต่อไปเรื่อยๆ?

      ส่วนประเด็นที่ว่าเป็นอาชีพเดียวกันทำไมถึงมาดิสเครดิตกันเอง ผมต้องขอบอกว่ามันเป็นเรื่องบัญเอญตั้งแต่แรกแล้วครับที่ผมมาค้นพบเรื่องนี้ ถ้าสมมุติผมเป็นพนักงาน MK หรือเป็นรปภ. ฯลฯ แล้วไปซื้อแผ่นคุณบัณฑิตมาแล้วเผอิญค้นพบเรื่องนี้ ผมก็คงจะออกมาบอกความจริงแบบเดียวกัน แต่ผมดันเป็นคอนดักเตอร์ คนก็เลยเบี่ยงประเด็น แล้วก็ต่อว่าผมโดยอัตโนมัติครับ

  74. 7m says:

    ขออนุญาติแชร์นะครับ

  75. wheelstep says:

    ด้วยวัยวุฒิขนาดนี้ คุณทำอะไรต่อมิอะไรได้ถึงขนาดนี้ ละเอียด รอบคอบ ลึกซึ้ง กล้าหาญและท้าทายยิ่งนัก ขอแสดงความชื่นชมและปรารถนาดีมายังคุณทฤษฎี..

    อยากบอกว่าคุณได้แฟนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 1 คนหละ ^–^

  76. too says:

    ผมเองก็ซื้อแผ่น บริษัท Inspire Music เช่น Heavenly Music และชุดอื่นอีก 2-3 แผ่นให้เป็นของขวัญแก่ญาติผู้ใหญ่และให้ตนเองอีก 1 ชุด เพราะเข้าใจว่าเป็นผลงานของคุณบัณฑิตเอง ขอย้ำว่าผมเข้าใจว่าเป็นผลงานของคุณบัณฑิตเอง เพราะปกหน้าปกหลังมันสื่อให้ผมเข้าใจแบบนั้นจริงๆและไม่มีรายละเอียดอะไรให้ดูเลยจริงผมเลยหลงผิดซื้อมา ได้มาอ่านแบบนี้ขอบอกว่าหูตาสว่างขึ้นอีกเยอะ ตอนแรกยังตำหนิตัวเองอยู่ในใจเลยว่าทำไมไม่ซื้อแบบเป็นบ็อกรวมมาให้ครบชุด แต่พอได้อ่านแล้วดีใจมากครัีบที่ไม่ได้ซื้อมาครบหมดทุกชุดคงรู้สึกเสียดายเงินแย่ ผมเองก่อนให้ญาติผู้ใหญ่ไปยังได้บอกท่านไปเลยว่าเป็นผลงานของคุณบัณฑิต เฮ้อ! เซ็งเป็ด
    สรุปได้ดังนี้สำหรับตัวผม
    1.ผมคงโง่เองที่หลงผิดคิดไปเองว่าเป็นผลงานของคุณบัณฑิต
    2.ผมคงโง่เองที่ไม่ติดตามสื่ออื่น จึงไม่รู้ว่าไม่ใช่ผลงานของคุณบัณฑิต
    3.ผมคงโง่เองที่ไม่มีความรู้เรื่องดนตรีคลาสสิค ซึ่งคุณบัณฑิตได้ได้ออกผลงานนี้มาเพื่อสนับสนุน แต่ขอโทษนะครับคุณบัณฑิตผมเจออย่างนี้แล้ว ผมขอสงวนสิทธิ์เลิกฟังเพลงคลาสสิคครับเพราะมันช้ำครับ
    4.ผมไม่รู้หลอกนะว่า บริษัท Inspire Music หรือคุณบัณฑิตคิด ดีหรือไม่ดีอย่างไร? ตั้งใจทำแบบนี้เพื่อ? แต่ผมสรุปได้แล้วกรูููกรูกรู โง่เอง
    ขอบคุณครับ

  77. Paul says:

    ขอออกความเห็น 2 ประเด็นครับ

    ประเด็นที่หนึ่ง

    คุณบัณฑิต ก็มีชื่อเสียง และมีผีมือ มีเหตุผลอะไรที่ ไม่ออกงานที่ตัวเอง conduct เอง
    เรื่องที่บอกว่า เพื่อให้คนไทยรู้จักเพลงคลาสสิคมากขึ้นนั้น ไม่ใช่เหตุผลของกรณีนี้
    ( คนไทยจะรู้จัก หรือไม่รู้จักเพลงคลาสสิก ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับกรณีที่เป็นประเด็นอยู่นี้เลย )

    ประเด็นที่สอง

    เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของคนสองคน แต่เป็นเรื่องของจรรยาบรรณ หรือหลักการ
    แต่ทำไมคนไทยจำนวนหนึ่งถึง respond กับประเด็นนี้ในลักษณะที่ว่าเป็นเรื่องระดับส่วนตัวของคนสองคน

    ( ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ จาก reply ของ คุณเอกชัย ไชยนุวัติ กันยายน 25, 2010 20:08 ข้างบน
    ซึ่งถึงกับระบุว่า มีการไปเจรจากับทั้งสองท่าน และลงท้ายทำนองว่า คนไทยคุยกันได้ )

    • bim says:

      ผมได้อ่านหนังสือและัรับรุ้เรื่องราวความสามารถต่าง ๆ ของคุณ บัณทิต แล้วทึ่งมากจริง ๆ ครับ…. คือเป็นไอดอลที่จะบอกกับลูกได้เลยว่าควรเอาเป็นแบบอย่าง
      กรณีเคสนี้ผมว่าไม่เหมาะอย่างมากเลย …… ไม่รุ้ว่าออกมาได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่การวาทยากรเพลงต้องอ่านออกทุกชอตทุกธีม ทุกโน้ท ระดับคุณบัณฑิตย่อมต้องเข้าใจหมดทั้งอารมณ์เพลงเจตนารมณ์ของผู้แต่ง การรคอนดัคบุคลากรในวง…….
      กับเรื่องนี้แล้วผมว่ามัน…….เสียความรุ้สึก เสียดายเครดิตความสามารถจริง ๆ
      ความชัดเจนโปร่งใส-จริยธรรมผมว่าสำคัญมาก เก่งแล้วต้องเป็นแบบอย่างที่ดีด้วย

  78. marnoet says:

    งานเข้าแล้ววววว

  79. ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
    ไม่น่าทำกันได้ลงคอ ศิลปินเหมือนกัน

  80. X says:

    คนไทยด้วยกันแท้ๆ

    คนนึงทำตัวเหมือนหลอกชาวบ้าน

    อีกคนทำตัวเป็นคนดีแต่จ้องจะจับผิดคนอื่น

    ชาติเจริญแน่ๆ

    • trisdee says:

      คุณ X ครับ ขอบคุณสำหรับคอมเมนต์ครับ

      ผมงงทุกทีเลยครับเวลาคนหาว่าผม “จ้องจับผิดคนอื่น” คือเรื่องทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าวันนั้นผมไม่ได้ไปเดินสยามแล้วไปเจอแผ่นคุณบัณฑิตเข้า และที่ผมซื้อก็เพราะอยากฟังผลงานการคอนดักต์ของคุณบัณฑิต ไม่ได้ซื้อมาเพื่อจับผิด (เพราะตอนแรกก็ไม่รู้ว่ามีอะไร “ผิด” ให้จับ) หนังสือคุณบัณฑิตผมก็อุดหนุนไปหลายเล่มเช่นเดียวกัน

      แล้วพอซื้อมาแล้วค้นพบความจริงอย่างนี้ คุณ X จะให้ผมนั่งอยู่เฉยๆเหรอครับ? ตอนผมเขียนเรื่องนี้ผมรู้ดีครับว่าจะต้องมีคนด่าผมว่าอิจฉาริษยาคุณบัณฑิต ว่าคอยไปจับผิดหาเรื่องคนอื่นเขา (ทั้งๆที่เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ) แต่ผมก็รู้เหมือนกันว่าจะมีอีกหลายคนที่จะขอบคุณผมสำหรับการที่ผมกล้าเอาหน้าตาตัวเองเข้าแลกและออกมาพูดความจริงแบบนี้

      ถ้าเกิดเวลามีคนใจกล้าเอาความจริงมาบอกเช่นนี้แล้วยังโดนคนมองว่าจ้องจับผิดคนอื่น แล้วในอนาคตใครจะกล้าออกมาพูดความจริงอย่างนี้อีกล่ะครับ?

      • too says:

        “ถ้าเกิดเวลามีคนใจกล้าเอาความจริงมาบอกเช่นนี้แล้วยังโดนคนมองว่าจ้องจับผิด คนอื่น แล้วในอนาคตใครจะกล้าออกมาพูดความจริงอย่างนี้อีกล่ะครับ?”

        ประโยคนี้โดนใจครับน้อง trisdee บ้านเมืองเรามันมีแต่คนที่โง่เพราะไม่รู้เต็มบ้านเต็มเมือง เราควรจะให้กำลังใจผู้ที่จุดตะเกียงให้แสงสว่างให้ความรู้เราต่างหากละครับไม่ใช่เอาเค้ามาเผาทั้งเป็นจากความโง่ที่ไม่เปิดใจยอมรับ แถมยังเบี่ยงเบนประเด็นผู้จุดตะเกียงไปอีก

        ขอบคุณน้อง trisdee ครับ

      • trisdee says:

        ขอบคุณที่เข้าใจและที่ให้กำลังใจครับ 🙂

    • UknowWhoisme says:

      ควายหรือเปล่าความเห็นแบบนี้

  81. จั่น says:

    ชอบและขอบคุณ คุณทฤษฏี มากๆ ค่ะ สำหรับบทความนี้
    ทั้งประเด็น ข้อมูล หลักฐาน รายละเอียด และภาษา

    เรื่องและเหตุการณ์ในครั้งนี้ น่าจะเป็น ๑ ในการช่วยตั้งมาตรฐาน
    ด้าน “การสื่อสาร” ในวงการเพลงในสังคมไทยนะคะ
    ขอบคุณมากค่ะ

    สำหรับผู้ที่ทำผิด ทำพลาด ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม
    ถ้าได้สำนึก และกล่าวขอโทษ รวมทั้งพยายามแก้ไขให้ดีขึ้น กระจ่างขึ้น
    ก็น่าจะเป็นการกระทำที่ดี ที่เป็นศรีกับตัวเองนะคะ

  82. กุยช่าย says:

    ผมเห็นหลายความเห็นใช้ตรรกะว่า เป็นคนไทยด้วยกัน ทำไมต้องว่ากัน หรืออยากให้สมานสามัคคีเพราะเป็นคนไทยด้วยกัน… ผมว่าประเด็นนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวกับความเป็นคนไทยนะ ลองคิดดูว่ามีขโมยขึ้นบ้าน แล้วโจรบอกคุณว่า จะจับทำไม คนไทยด้วยกัน คุณจะตอบไปว่าอย่างไร? ถ้าทำผิดอะไรแล้ว เป็นคนไทย จะไม่ทำให้ผิดเหรอ? ผมว่าไม่เกี่ยวนะ

    หรือในอีกประเด็นที่มีคนถามว่า เจ้าของยังไม่เดือดร้อนเลย คุณ T มาเดือดร้อนด่าคุณ B ทำไม ผมว่าต้องเดือดร้อนนะ อย่างน้อยก็เป็นผู้บริโภคที่อุดหนุน จ่ายเงินให้คุณ B ซึ่งผมก็ประสบภาวะเดียวกัน ผมซื้อ CD เพราะต้องการสนับสนุนคุณ B อยากลองเสพงานที่ว่ากันว่ามาจากศิลปินระดับโลก แต่อ่านปกแล้วไม่เข้าใจ ก็มีข้อสงสัยแต่ไม่รู้จะไปหาคำตอบอย่างไร จนได้ผู้มีความรู้มาไขให้กระจ่างนี่แหละ

    • too says:

      การยกตัวอย่างของ คุณกุยช่าย เคลียร์มากครับ ถูกต้องแล้วครับไม่ใช่ออกมาเผาบ้านเมืองแล้วถูกจับ ถามจับผมทำไม บอกคนไทยด้วยกัน….ฮ่วย!

  83. คนจริง says:

    เสียเวลา….ไม่มีอะไรดีขึ้น เลิกจับผิด มุ่งจับดี ทำแต่ความดี เปลี่ยนความคิดตั้งแต่วันนี้ ไม่งั้นไม่เจริญ

    • too says:

      โมหะคุณเต็มกบาลเลยนะ สงสัยจะหาความเจริญยาก เค้าอธิบายแล้วว่าไม่ได้มุ่งจับผิด เค้าพบความผิดปกติแล้วมาให้ความรู้กับเรา….เฮ้อ!

  84. เห็นจากFacebook พี่เสกข์ครับแล้วก็ได้เจอข้อมูลจริงๆที่นี่

    ถ้าคุณไม่มาบอกผมคงไม่รู้อีกนาน

  85. ละเอียดจริงๆ ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ

  86. otto says:

    ใช่ครับ งานนี้โจทย์ผิด เพราะดันมาจับผิดคนใหญ่คนโต ปล่อยให้ผู้บริโภคไทยโง่ต่อไปเถอะครับ ถ้ามันเข้าตัวเช่นนี้
    ดนตรีคลาสสิคหรือดนตรีชนิดไหนๆ ไม่มีวันเติบโตภายใต้อคติแบบนี้หรอกครับ

    ปล อย่าลืมว่าเราคุยประเด็นอะไรกันอยู่

  87. คนฟังเพลง says:

    คงไม่ได้พูดเข้าข้างใคร ลองคิดตามดู

    สมมุติผมทำซีดีเพลงคลาสสิคขึ้นมาแผ่นนึงอยากให้คนไทยฟังเพลงกันเยอะๆ เลือกเพลงที่ผมชอบที่สุด ฟังง่ายๆใครๆก็ฟังได้อะไรก็ว่าไป สมมุติผมไม่มีทุนขนาดจะไปเช่าทั้งหอประชุมทั้งวงคลาสสิคและอะไรต่ออะไรเพื่ออัดเสียงลงแผ่น อยากได้อะไรที่มันง่ายๆ ผมก็คงจับของที่มีอยู่แล้วมาลงแผ่น สมมุติผมอีโก้สูงหน่อยๆอยากจะใส่ประวัติของตัวเองลงไปในแผ่นเยอะๆ สมมุติผมดันเป็นวาทยากรคนไทยชื่อเสียงโด่งดังก้องโลก คนซื้อแผ่นผมเห็นรูปหน้าปกเห็นประวัติผมแน่นอนเค้าต้องคิดว่าผมเป็นคนนำวง ทำไงดี ทำไงได้ล่ะ ก็ให้เค้าคิดไปอย่างนั้นแล้วกัน เครดิตจะใส่ไว้น้อยๆหรือไม่ใส่เลยก็ตามแต่ ขออนุญาติเจ้าของก็ไม่ขอ (สองอย่างหลังนี่ล่ะจะมีปัญหาตามมาเยอะ) สมมุติว่าผมทำการบ้านตรงนี้น้อยเกินไป ไม่คิดว่าจะมีปัญหาตามมา (ส่วนอย่างแรกแต่ใส่ให้ครบเขียนตัวน้อยๆน่ะฝรั่งที่ไหนก็ทำกันทั้งนั้น)

    แล้วสมมุติมีผมอีกคนนึง เป็นวาทยากรเหมือนกัน ผมเห็นว่าอีตาผมคนแรกเนี่ยทำอย่างนี้มันไม่ถูกแฮะ ไม่ได้สิ คุณเอารูปคุณลงปก คุณเป็นวาทยากร เพลงในแผ่นคุณมันต้องเป็นคุณนำวงเองดิ ถ้าเป็นเพลงคนอื่นมันต้องใส่เครดิตไว้สิ ไม่ได้ๆเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมาทันที ได้ทีล่ะ สมมุติว่าถ้าผมหักหน้ามันต่อหน้าสาธารณะชนได้ มันคงดับ ผมคงดังเละ ว่าแล้วผมก็โพสต์ข้อมูลต่างๆที่ผมมีอยู่ลงในอินเตอร์เนท กะเอาให้มันดับ ไม่นานเรื่องนี้ก็ดัง

    ลองถามตัวคุณเองว่า มันเรื่องใหญ่ขนาดเมลไปคุยกันเองก่อนไม่ได้เชียวหรือ?

    • trisdee says:

      สวัสดีครับ คุณคนฟังเพลงครับ ขอบคุณที่มาคอมเมนต์ครับ 🙂 หลายคนได้ถามคำถามนี้มาครับ ซึ่งในหลายเว็บบอร์ดก็ได้มีคนใจดีที่เข้าใจสถานการณ์ได้ให้คำตอบแทนผมมาอย่างมากมาย

      คือตอนแรกผมแค่เขียนเป็นเรื่องเล็กๆอยู่ใน facebook ครับ อ่านกันเฉพาะในกลุ่มเล็กๆโดยไม่เคยมีเจตนาให้กลายเป็นข่าวใหญ่อะไรกันขนาดนี้ ส่วนมากคนที่มาอ่านจะเป็นคนในวงการ ไม่ใช่ว่าผมมาเขียนบล็อกใหญ่นี่ตูมเดียว แล้วอีกอย่างนึง ตอนผมเขียนบล็อกนี้ ผมไม่ได้คิดหรอกครับว่าจะ “ดัง” หรืออะไร แต่ที่ผมรู้ว่าจะโดนแน่ๆคือโดน “ด่า” ครับ แต่ผมแค่ต้องการจะเอาความจริงที่ผู้บริโภคหลายคนอาจจะยังไม่รู้มาบอกกล่าวกัน ซึ่งเท่าที่ดูก็ดูเหมือนผมได้สร้างความแตกต่างและความชัดเจนให้กับผู้บริโภคมากขึ้น

      กลับมาเรื่องเดิม: ปรากฎว่าไปๆมาๆคุณบัณฑิตมาเขียนตอบชี้แจงด้วยตนเอง ซึ่งคำตอบของคุณบัณฑิตผมได้โพสต์ให้ดูแล้วข้างต้น จะเห็นได้ว่าไม่มีการให้เหตุผลใดๆว่าทำไมถึงไม่พิมพ์เครดิตไว้ข้างนอกหรือในบางกรณีไม่มีบอกเลย เพียงแต่บอกว่าได้บอกไปแล้วในสื่อและเมืองนอกเขาทำกันยังงี้ ซึ่งนี่คือคำตอบอย่างเป็นทางการของคุณบัณฑิตต่อสาธารณชน ตอนที่เรื่องยังเล็กๆอยู่

      ต่อมาพอกลายเป็นเรื่องใหญ่คุณบัณฑิตก็ยังยืนยันคำตอบเดิม โดยยังเลี่ยงประเด็นที่ว่า “แล้วทำไมตอนแรกถึงทำอย่างนี้” ซึ่งคงเป็นสาเหตุที่หลายคนที่ตามเรื่องและตามประเด็นอยู่ดูจะมีความเห็นที่ค่อนข้างเป็นเอกฉันท์ในเรื่องนี้เท่าที่เห็นมา เพราะเขาอาจจะยังไม่ได้คำตอบที่สมควร อีกอย่างนึงคือ บริษัท อินสไปร์มิวสิค แต่แรกไม่มีท่าทีที่จะแก้ไขเรื่องนี้อย่างจริงจังเลย จนกลายมาเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ถึงได้ออกมาบอกว่าจะเอาสติกเกอร์มาติดบอกไว้บนหน้าปก… และนี่คือหลังผมโพสต์เล็กๆใน facebook… (ไม่เกิดผล)… จนผมเขียนบล็อก… (ไม่เกิดผล)… จนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่ง… มีประชาชนมากมายเป็นสักขีพยาน… แล้วลองคิดดูครับว่าถ้าอีเมล์ไปตัวต่อตัวตอนแรกแล้วจะมีผลเป็นอย่างไร…

      ปล: ที่คุณคนฟังเพลงบอกว่ามันจะ “เรื่องใหญ่” อะไรขนาดอีเมล์คุยกันก่อนไม่ได้… แต่คือ ส่วนตัวผม ผมเห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่นะครับ และคิดว่า ถ้าสาธารณชนทั่วไปคิดว่าเป็นเรื่องเล็กก็คงไม่มีคนให้ความสนใจขนาดนี้แน่ๆครับ

    • Cookie says:

      ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกครับแต่ถ้าไปบอกดีๆก็อดสร้างกระแสให้ตัวเองไง

      สงสัยที่บอกว่าคุณทฤษฏี conduct ตปท แต่ไปเที่ยวซื้อ CD เมืองไทยแล้วนั่งทำการบ้านไปทำลายคนอื่น

      แล้วอย่างนี้วงการเพลงเมืองไทยจะเป็นอย่างไรเนี่ย

  88. คนไท คนหนึ่ง says:

    มันก็เลียน ของฝรั่งมาทั้งนั้นนี่ครับ

    แต่งเอง เล่นเองให้ดูกันหน่อย

    เพลงลูกทุ่งก็ได้

  89. คนทั่วไป says:

    ขอให้กำลังใจคุณบัณฑิต อึ้งรังษี ครับที่ให้เพลงคลาสสิกที่หลากหลายได้ฟังครับ
    ผมไม่ค่อยรู้จักใครในวงการนี้ครับ รู้จักแต่คุณบัณฑิต คนเดียว ที่พยายามเผยแพร่ให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นในราคาไม่แพงครับ
    ผมเชื่อว่าคุณบัณฑิต ไม่ได้มีเจตนาเอาชื่อศิลปินใครมาหากิน แต่ต้องการนำเพลงหลากลายมาเพื่อให้คนทั่วไปได้ฟังกันมากกว่า
    และคิดว่า หากการผลิตในครั้งนี้ทำให้ผู้ที่อยู่ในวงการนี้โดยตรงไม่พอใจ ก็น่าจะแยกออกให้ชัดเจน หรือแสดงความรับผิดชอบต่อพวกเขาครับ เพื่อความจริงใจ และความถูกต้องชอบธรรมครับ

  90. bluetear says:

    ผมก็ซื้อ CD ของคุณบัณฑิต ชุด โมสาร์ท ประมาณว่าอยากให้เด็กน้อยของผมได้ฟัง

    แต่กำลังสงสัยเหมือนกันว่าเป็นของคุณบัณฑิต บรรเลงเองหรือเปล่า เย็นนี้คงต้องไปดูแล้วครับ

    เฮ้อ ถ้าทำแบบนี้จริง ๆ ก็เท่ากับว่าหลอกลวงผู้บริโภคจริง ๆ นะครับ สำหรับคนที่เิ่พิ่งจะหัดฟังเพลงคลาสสิก ใครจะไปรู้เรื่องว่ามี
    การทำแบบนี้ด้วย

    • trisdee says:

      ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์ครับคุณ bluetear 🙂

      กรณีนี้ไม่เกี่ยวกับว่าเริ่มหัดฟังหรือฟังมานานแล้วครับเพราะว่า ข้อมูลที่บอกว่าใครเล่นนั้นไม่ได้พิมพ์ไว้ข้างนอกแผ่น แถมห่อพลาสติกไว้อีกทีนึงครับ เพราะฉะนั้น ต่อให้คุ้นเคยกับเพลงคลาสสิคยังไงก็ไม่มีทางรู้ได้ครับ ที่บ้านผมมีแผ่นซีดีเพลงคลาสสิคอยู่ประมาณพันกว่าแผ่น (แผ่นแท้นะครับ) ขอรับรองครับว่าไม่มีแม้แต่แผ่นเดียวที่ไม่บอกศิลปินผู้บรรเลงไว้นอกแผ่นครับ ถ้าคุณ bluetear ไปเดินเล่นร้านขายซีดีคราวหน้า ลองสังเกตดูได้ครับ 🙂

      ปล: แต่ถ้าซื้อให้ลูกน้อยฟัง ผมว่ายังไงก็เป็นผลดีนะครับ ไม่ว่าจะเป็นคุณบัณฑิตคอนดักต์หรือใครคอนดักต์ครับ 🙂

  91. Zaeparis says:

    เราเรียนที่ยุโรปถูกปลูกฝังว่าการเอางานคนอื่นมาแล้วใส่ชื่อตัวเองเป็นสิ่งที่ผิด (แม้กระทั่งการลอกเลียนแบบ) แต่การที่เค้าซื้อลิขสิทธิ์มาถูกต้องและใส่เครดิตไว้เล็กจิ๋วด้านใน ไม่ใช่เป็นเรื่องคอขาดบาดตายขนาดนั้น

    คนเรานี่แปลก พอ “ฮีโร่” ทำอะไรดีก็ยกย่อง แต่พอมีเรื่องเสียเพียงเล็กน้อย กลับคอยจับผิดเสียเร็ว เหมือนไม่อยากเห็นว่ายังมีคนดีอยู่ เราว่าดูคน ต้องดูที่เจตนาก่อน พี่บัณฑิตเป็นคนมีทัศนคติดีและเป็นกำลังใจให้คนไทยรุ่นใหม่ตามฝันเสมอมา เราเชื่อว่ามันต้องมีเหตุผล และถึงแม้พี่เค้าจะผิดจริง ในเมื่อทาง Inspire รับทราบแล้วแก้ไข ก็น่าจะให้อภัยได้

    • trisdee says:

      เรื่องการจับผิดนี่ผมได้ยินมาเยอะจนงงครับว่าตกลงคนอ่านบล็อกผมรึเปล่า หรือว่าดูแต่รูปและตัวอักษรใหญ่…?

      ผมขอยกคำอธิบายที่ผมเขียนไว้ข้างบนมาก็แล้วกันครับ:

      “ผมงงทุกทีเลยครับเวลาคนหาว่าผม “จ้องจับผิดคนอื่น” คือเรื่องทั้งหมดนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าวันนั้นผมไม่ได้ไปเดินสยามแล้วไปเจอแผ่นคุณบัณฑิตเข้า และที่ผมซื้อก็เพราะอยากฟังผลงานการคอนดักต์ของคุณบัณฑิต ไม่ได้ซื้อมาเพื่อจับผิด (เพราะตอนแรกก็ไม่รู้ว่ามีอะไร “ผิด” ให้จับ) หนังสือคุณบัณฑิตผมก็อุดหนุนไปหลายเล่มเช่นเดียวกัน

      แล้วพอซื้อมาแล้วค้นพบความจริงอย่างนี้ คุณ X จะให้ผมนั่งอยู่เฉยๆเหรอครับ? ตอนผมเขียนเรื่องนี้ผมรู้ดีครับว่าจะต้องมีคนด่าผมว่าอิจฉาริษยาคุณบัณฑิต ว่าคอยไปจับผิดหาเรื่องคนอื่นเขา (ทั้งๆที่เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ) แต่ผมก็รู้เหมือนกันว่าจะมีอีกหลายคนที่จะขอบคุณผมสำหรับการที่ผมกล้าเอาหน้าตาตัวเองเข้าแลกและออกมาพูดความจริงแบบนี้

      ถ้าเกิดเวลามีคนใจกล้าเอาความจริงมาบอกเช่นนี้แล้วยังโดนคนมองว่าจ้องจับผิดคนอื่น แล้วในอนาคตใครจะกล้าออกมาพูดความจริงอย่างนี้อีกล่ะครับ?”

  92. Weerasak says:

    ขอบคุณข้อมูลที่นำมาเผยแพร่ให้ได้ทราบกัน หลายๆ คนอาจชอบคุณบัณฑิตมาก ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เมื่อมีเรื่องที่ไม่ควร เราก็ควรแยกแยะเรื่องความชอบส่วนตัวด้วย ตัวผมทำอาชีพสายการออกแบบ ถ้าผมเห็นใครที่ผมชอบในอาชีพนี้ แล้วทำอะไรไม่ถูกไม่ควร ผมก็คงจะหาทางเล่าเรื่องให้คนที่ยังไม่รู้ได้รู้ว่า การกระทำแบบนั้นในทางสายอาชีพนั้น มันไม่ถูกไม่ควรยังไง คนอื่นจะเข้าใจผิดหรือได้รับความเสียหายอย่างไร กับการที่คนนั้นทำเรื่องที่ไม่ควร ทั้งอาจตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เพื่อให้คนที่ไม่รู้ที่จะต้องมาเกี่ยวข้องกับสายอาชีพนั้นๆจะได้รู้ข้อมูลที่ถูกต้อง

    บางคนชอบพูดว่ามัวแต่มานั้งจับผิดประเทศคงเจริญ ผมกลับมองว่าที่ประเทศนี้ยังไม่เจริญ เพราะคนที่จับผิดน้อยและไม่กล้า หรือถ้ากล้าก็ไปสวรรค์ (โดนเก็บ) คนที่มักง่าย หรือทำชั่วโกงกินประเทศนี้มันถึงอยู่กันได้ ส่วนดีก็คือส่วนดี ส่วนเลวก็คือส่วนเลว คนทุกคนผมว่าก็คงมีสองอย่างนี้ปนๆ กัน อยู่ที่ว่าส่วนไหนจะมากกว่ากัน และไอส่วนที่เลวมันไปทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรือถูกเอาเปรียบหรือเปล่า

    บางครั้งผมก็นึกอยากให้ประเทศนี้เป็นเมืองขึ้นพวกยุโรปนะ เราจะได้ลำบากมากๆ ทำให้คนในประเทศขยัน รักชาติอย่างที่ควรรัก มีหัวคิด รักกันมากขึ้น และได้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สอง แต่ทุกวันนี้มีแต่เด็กแว้น มีแค่คนเห็นแก่ตัว เอาสบายเข้าว่า ขี้เกียจแต่อยากได้เงินเยอะๆ บางคนเงินเดือนหมื่นกว่า เงินทองกับพ่อกับแม่ไม่เคยให้เลยเดือนๆ นึง คอยแต่จะใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม ซื้อโทรศัพท์รุ่นใหม่ๆ นึกอะไรไม่ออก ไม่รู้จะทำอะไร(เพราะไม่มีความสามรถอะไร) ก็ไปนั่งกินเหล้า ไปเที่ยวกลางคืน เช้าก็มาคุยที่ทำงานว่าเมื่อคืนกินไปกี่ขวด ถ้าคนน้อยแต่ขวดเยอะ จะรู้สึกภูมิใจว่าตัวข้าเก่ง โอ๊ยขี้เกียจพิมละ บุญรักษาทุกท่านละกันครับ

  93. อึ้ง จริง ๆ

  94. Kaney says:

    ขอเสวนาแลกเปลี่ยนนิดหน่อยนะครับ … พออ่านมาถึงรู้ว่า เวลาเห็นพวกซีดีเพลงคสลาสิค ถึงมีรายละเอียดแบบเยอะแยะไปหมดเลย (แม้ผมเองก็ไม่ค่อยรู้จักอะไรมากมายนัก) แต่ลองสังเกตเปรียบเทียบตัวอย่างที่คุณทฤษฎีเอามาให้ดู ก็เลยเห็นความแตกต่างครับ เดี๋ยวจะลองกลับไปสังเกตุอีกครั้งนึงนะครับ แต่ผมเชื่อว่า พวกซีดีที่ออกมาขาย น่าจะมีเพลงที่คุณบัณฑิตเล่นเองออกมาขายมากกว่านะครับ (หมายถึงคอนดัก และก็อัดเสียงทำนองนี้อ่ะครับ) เพราะเชื่อว่าเราคนไทยก็อยากได้ยินได้ฟังอะไรที่มาจากที่เค้าเล่นเองจริงๆ (หรือว่าค่าใช้จ่ายมันก็คงจะมากมายเอาเรื่องอยู่ อืม..) และแม้นว่าจะเอาเพลงจากที่อื่นมาโดยถูกต้องตามกฎ แต่ก็ไม่น่าจะมาเสียเพราะเรื่องแค่นี้เลย (ไม่ว่าจะเป็นทั้งตัวคุณบัณฑิตเองและตัว บ. ที่จัดจำหน่าย) เหมือนผิดจรรยาบรรณหรือเปล่าอะไรทำนองนี้ครับ แต่ยังไงก็ขอให้เรื่องนี้จบลงด้วยดีนะครับ

  95. คนทั่วไป says:

    พี่บัณฑิต อึ้งรังษี ครับ เมื่อเราชี้แจงความจริงที่เกิดขึ้นให้สังคมแล้ว ถ้ายังมีคนจ้องเล่นงานอยู่อย่างนี้ ขอให้มีความอดทนนะครับ เพราะดูแปลกๆ
    ขอให้พี่กลับใจ และให้อภัยคนที่จ้องทำลายคุณบัณฑิต อึ้งรังษี ครับ ขอให้ทำหน้าที่ต่อไปครับ ขอให้ใช้ความรักครับ แล้วจะพบคำตอบ

  96. Nick says:

    This is clearly a case of deliberate deception. Perhaps not in law, but definitely in every other sense. It is a marketing ploy to increase Khun Bundit’s visibility and make him and Inspire Music profits. His own words on his own website betray him – “In no way did either Inspire Music or I ever intend for my fans to think that I was the conductor of all these tracks.” That remark is absolutely astonishing! Either he and Inspire music are totally naive, or they intended to deceive. I know what I think!

    I remember when Khun Bundit won the New York competition and how proud I was for Thailand. But what has happened to his career since then? I have rarely heard anything publicised about his concerts here or overseas. Looking at his own website, he seems to have had no engagements overseas for over 2 years. It seems orchestras he conducted just don’t want him back.

    He sets himself up as an example. But an example of what? What sort of example is this setting to the nation’s talented young musicians? It is all very sad.

  97. Mr.Bandit says:

    หลังจากที่คุณทฤษฎีได้นำเสนอข้อมูลดังกล่าวจนเป็นที่ถกเถียงในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง โดยมีประเด็นหลัก ได้แก่ จริยธรรมต่อวิชาชีพ ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความเหมาะสมและอาจถือเป็นการหลอกลวงผู้บริโภคแล้วนั้น ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่น่าจับตามองดังต่อไปนี้ คือ

    1.) คุณบัณฑิตได้ทำการเปลี่ยนแปลงบทบาทของตัวเองในโครงการดังกล่าวอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยในวันที่ 16 กันยายน คุณบัณฑิตได้เข้ามาตอบในหน้า Facebook ของคุณทฤษฎีว่า “ในสื่อที่ออกไป เขียนอย่างชัดเจนว่า ผมเป็น Presenter, Executive Producer แต่เป็น Conductor เฉพาะในบางเพลงเท่านั้น…” แต่ในวันที่ 25 กันยายน คุณบัณฑิตกลับโพสต์ในหน้าเวปไซต์และบล๊อคของตนเองว่า “ผม ในส่วนของศิลปินภายในค่าย และผู้รับจ้างมาเป็น Presenter…” จากการยืนยันว่าตนเองเป็น Presenter (ผู้มีหน้าที่นำเสนอขายสินค้า) Executive Producer (ผู้มีบทบาทในการรับผิดชอบโครงการทั้งหมด) และ Conductor (วาทยากร) เฉพาะบางเพลงในวันที่ 16 แต่เพียงไม่ถึงสิบวันคุณบัณฑิตกลับกลายเป็น Presenter ผู้รับจ้างเพียงเท่านั้น นี่อาจถูกตีความว่าเป็นความพยายามในการลดบทบาทของตนเองเพื่อปฏิเสธความรับผิดชอบต่อสังคม และอาจเป็นการบิดเบือนให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงทางกฏหมายได้หรือไม่?

    2.) อย่างไรก็ตาม ประเด็นในข้างต้นอาจจะไม่มีความสำคัญมากนัก เนื่องจากว่าบริษัทที่คุณบัณฑิตอ้างว่าเป็นผู้ว่าจ้างของตนนั้น ประกอบด้วยกรรมการบริษัทสองคน ซึ่งคนหนึ่งเป็นภรรยาและอีกคนหนึ่งเป็นญาติพี่น้องของคุณบัณฑิต รวมไปถึงผลงานของบริษัทแทบทั้งหมด หากไม่ใช่ทั้งหมด ก็คืองานของคุณบัณฑิตเอง คุณบัณฑิตจะปฎิเสธความรับผิดชอบและอ้างว่าไม่รู้เห็นได้อย่างไร? และมีเหตุผลในการเปลี่ยนแปลงบทบาทของตนเองด้วยเหตุผลใด?

    คุณบัณฑิตมีพฤติกรรมที่ส่อเจตนาในการบิดเบือนและทำให้ประชาชนเข้าใจผิดในสาระสำคัญครั้งและครั้งเล่า สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถกลบไปด้วยการกล่าวว่าขอให้คนไทยรักกัน สามัคคีกัน หรือให้ทำเพื่อวงการคลาสสิค ซึ่งเ็ป็นเหมือนการบิดเบือนอย่างไม่สิ้นสุด

  98. DLS says:

    เหมือนดาบสองคม

    ฟากหนึ่งจะชื่นชม ยกย่อง ที่กล้าทำในสิ่งที่ถูก
    แต่อีกฟาก คงมีคนหวั่นๆที่จะคบคุณอยู่เหมือนกันนะครับ

    แต่เท่าที่อ่านอย่างเป็นกลาง คุณบัณฑิตทำแบบนั้นก็ไม่ถูกครับ ชุบมือเปิบ

  99. L says:

    อยากให้ทำ Blog เผยแผ่ข้อมูลอื่นๆ ด้านดนตรีคลาสสิคด้วยครับ

  100. คนทั่วไป says:

    มองให้ครบทุกด้าน

    เพื่อความเป็นธรรม อย่ามองด้านเดียวเท่านั้นครับ
    คุณคิดว่า ถ้าพี่บัณฑิตเอาเพลงคลาสสิกของเขา(นักดนตรีต่างประเทศ)ทั้งหมดมาลง ก็จะเป็นของบุคคลท่านนั้นไปเลย แต่นี้มันรวมๆ
    และคิดไหมครับว่าถ้าเป็นของเขาโดยตรงราคามันจะแพงขนาดใหน คนทั่วไปอาจซื้อหาไม่ได้ ผมก็เคยซื้อเหมือนกันครับของต่างประเทศ เป็นของหลายๆท่านรวมกัน แต่บอกได้ว่าแพงมาก มีแค่10เพลง พันกว่าบาท

    แต่ผมเข้าใจว่าพี่บัณฑิต พี่เขาคงเป็นพันธมิตรกันกับนักดนตรีหลายๆท่าน เขาจึงอนุโลมให้
    ถ้ามองเพื่อความเป็นธรรม ด้วยเจตนาเพื่อให้คนทั่วไปสามารถหาซื้อได้ และมีโอกาศได้ฟังนักดนตรีดังๆในราคาไม่แพง ก็น่าจะอาศัยการเป็นพันธมิตรร่วมกันมากกว่าครับ

    ผมเขาใจว่าพี่เขาคงมีเจตนาให้คนได้ฟังเนื้อหาของเพลงมากกว่า
    แต่อาจจะไม่เป็นธรรมสำหรับคนที่อยู่ในวงการนี้โดยตรง เพราะต้องการฟังผลงานของพี่บัณฑิตเท่านั้น

  101. Ploy says:

    เพิ่งรู้ว่าคนที่เอาความจริงมาตีแผ่ให้สังคมรับทราบนี่เรียกว่าจัับผิด?

    ประเด็นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของลิขสิทธิ์ แต่เป็นเรื่องของความเหมาะสม มารยาท การให้เกียรติเจ้าของผลงาน และการให้ข้อมูลที่ชัดเจนต่อผู้บริโภคก่อนที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อไม่ใช่เหรอคะ? การอ้างว่าคุณบัณฑิตก็มีความดี มีความเก่ง และอื่นๆ นั่นก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ความดี และความชั่วมันหักล้างกันไมไ่ด้ ไม่ได้บอกว่าคุณบัณฑิตชั่ว แต่เมื่อผิดก็ว่าไปตามผิด และผลที่ตามมาจากการกระทำที่ทำใ้ห้เกิดความผิดมันก็ยังจะ้ต้องมีอยู่ แม้ใจจริงเจตนาเจ้าตัวเป็นอย่างไรคงไม่มีใครทราบได้ดีไปกว่าคุณบัณฑิตเอง แต่เมื่อผลที่ออกมาทำให้เกิดผลกระทบในทางที่ไม่เป็นผลดีกับใครแล้ว ผู้ที่พบเห็นก็ควรบอกกล่าว ก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้วนี่คะ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่คนในวงการออกมาพูด เราจะได้เห็นข้อมูลที่ละเอียดขนาดนี้เหรอ

    คุณบัณฑิตจะจัดการติดสติกเกอร์ที่ซีดี ก็ถือว่าดีกว่าไม่ทำอะไรเลย แต่ ความเห็นส่วนตัว คิดว่า ควรออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมซักหน่อย อย่างน้อยก็ขอโทษ ดีกว่าจะบอกปัดความรับผิดชอบ แถมยังบอกว่าคนอื่นก็ทำกัน

    คุณทฤษฎีคะ ขอให้รักษาความกล้าทำในสิ่งที่ดีนี้ต่อไปนะคะ ขอบคุณที่นำเรื่องราวมาบอกเล่า และเป็นกำลังใจให้นะคะ 🙂

  102. คนฟังเพลง says:

    ลองคิดกันดูอีกที

    เวลาเราซื้อบ้าน บ้านมีปัญหา เราติดต่อเจ้าของโครงการ เจ้าของโครงการไม่รับผิดชอบหรือพูดจาบ่ายเบี่ยง เราค่อยไปฟ้อง สคบ หรือประกาศในที่สาธารณะ มีใครบ้างบอกว่าเจ้าของโครงการไม่รับผิดชอบแน่ๆ วิ่งไป สคบ เลย หรือประจานไปเลย โดยไม่ติดต่อเจ้าของโครงการก่อน?

    เวลาเราซื้อรถ รถมีปัญหา เราติดต่อบริษัทรถ บริษัทรถไม่ยอมรับข้อเสนอเรา เราค่อยไปฟ้อง สคบ หรือประกาศในที่สาธารณะ มีใครบ้างบอกว่า ไม่ต้องไปติดต่อมันหรอก บริษัทนี้อีโก้สูง วิ่งไปสคบหรือทุบรถออกข่าวไปเลย?

    เวลาเราซื้อโทรศัพท์ โทรศัพท์เรามีปัญหา เราติดต่อผ่านศูนย์บริการ ศูนย์บ่ายเบี่ยงบอกว่าเป็นความผิดผู้ใช้ เราจึงไปฟ้อง สคบ หรือประกาศในที่สาธารณะ มีใครบ้างโทรศัพท์มีปัญหา แต่ไม่แจ้งศูนย์ วิ่งไป สคบ หรือประจานโลด?

    ถึงเราเดาว่าเค้าจะไม่ตอบ เค้าจะไม่สนใจ แต่ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะจะมีคำถามตามมาว่าคุณคุยกับเจ้าของเรื่องก่อนแล้วเหรอ เค้าไม่สนใจใช่มั้ย เค้าอีโก้สูงและยังคิดว่าเค้าไม่ผิดใช่มั้ย มันก็เป็นการป้องกันตัวเอง จะเรียกว่าเป็นมารยาทมั้ย ก็อาจจะ เพราะถ้าคุณตอบว่า โอย เค้าคงไม่ตอบเมลผมด้วยซ้ำ มันก็จะมีคำถามซ้ำๆตามมาว่าคุณลองแล้วหรือ? ผมก็อาจจะพูดได้เหมือนกันว่าเค้ามาตอบคุณต่อหน้าสาธารณะ เค้าก็ต้องตอบคุณเป็นการส่วนตัวเหมือนกัน

    ถ้าถามต่อไปว่า เค้าจะตอบเหมือนกันมั้ยระหว่างต่อหน้าสาธารณะกับเป็นการส่วนตัว เค้าจะตอบเหมือนกันมั้ยระหว่างโดนประนามไปแล้วกับยังไม่โดน ก็เดาว่าคงไม่เหมือนกัน อันนี้ลองเก็บไปคิดดูว่าเค้าน่าจะตอบแบบไหนบ้าง คุณไม่แปลกใจเลยเหรอ ว่าทำไมด๊อกเตอร์แซลมอนไม่เล่นด้วยกับคุณ ทั้งๆที่คุณบัณฑิตไม่ได้ทำตามข้อตกลงของเขา ลองๆคิดดู มันอาจจะเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว เกี่ยวกับมารยาท หลายๆอย่าง ผมเคยเห็นคนไทยหลายคน เอาเมลที่ติดต่อกับทั้งคนไทยทั้งฝรั่งเป็นการส่วนตัว เอามาเผยแพร่ แล้วก็มักจะโดนอย่างนี้ทุกคน ฝรั่งคนไหนคุยกับผมแล้วเอาเมลส่วนตัวผมไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาติก็จะโดนเหมือนกัน

    กลับมาเรื่องเดิม เค้าอาจจะไม่ตอบเลยก็ได้ ถึงตอนนั้นผมคงไม่ลังเลที่จะเผยแพร่เรื่องนี้สู่สาธารณะ แต่ก็คงจะแจ้งเค้าก่อนอีกทีอยู่ดี

    สมมุติว่าเมลคุยกันเป็นการส่วนตัว เค้าจะตอบหรือไม่ก็ตาม แต่ผลงานถัดไปเค้าปรับปรุง มีการบอกชัดเจน ให้เครดิตชัดเจน ลองถามตัวคุณเองดูว่า ผลที่ได้มันต่างกันตรงไหน ถ้าบอกว่าเราไม่เอาเรื่องเก่ามาคุยกัน อยากให้ปรับปรุงในครั้งต่อๆไป แล้วการเขียนเรื่องนี้เป็นสาธารณะนั้นให้อะไรกับตัวคุณเองและคนที่ติดตามเรื่องนี้บ้าง ตัวคุณเองน่าจะรู้ดีที่สุด

    • ผ่านมา says:

      เยี่ยมครับ ทุกคอมเมนท์ อันนี้จึงบรรลุทางสายกลาง
      ไม่ฝรั่ง…ไม่ไทย…ไม่ตีกัน

    • trisdee says:

      ถ้าเป็นไปได้ ผมขออีเมล์ได้มั้ยครับ คุณคนฟังเพลง อยากติดต่อเป็นการส่วนตัวมากๆ ขอบคุณครับ

      • คนฟังเพลง says:

        ทิ้งเมลไว้ตรงไหนก็ได้ครับเดี๋ยวผมเมลกลับครับ

  103. ขอบคุณ says:

    ต้องขอชื่นชมคุณทฤษฏีที่ได้สร้างความตื่นตัวและความถูกต้องในด้านการเผยแพร่ลิขสิทธิ์อย่างถูกต้องและเหมาะสม
    และทำให้คุณบัณฑิตได้ทราบและเข้าใจว่าสิ่งที่คุณบัณฑิตได้ทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามหลักจรรยาบรรณ และอีกทางหนึ่งเป็นการทำให้ผู้บริโภคหลงเชื่ออย่างไม่ถูกต้องอันนำมาซึ่งผลประโยชน์ในด้านชื่อเสียงและทรัพย์สินอย่างไม่ถูกต้อง

    อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าการให้โอกาสผู้ที่ทำผิดนั้นได้แก้ไขจะเป็นประโยชน์ยิ่ง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อจิตใจของคุณเองด้วย

    ขอให้คุณทฤษฏีคิดและตรีกตรองด้วยจิตใจอันมีเมตตาและผ่องใส เพื่อให้ได้มีสุขในการกระทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ ด้วยอายุของคุณทฤษฏีในตอนนี้ผมเชื่อว่าคุณยังจะต้องเติบโตและเป็นบุคคลที่มีค่ามากขึ้นต่อไป

    โชคดีคตรับ

  104. กก says:

    แล้วคุณทฤษฏีคิดว่าคุณบัณฑิตควรทำอย่างไรครับ เขาอาจอยากจะแก้ไขเรื่องเหล่านี้ให้ดีขึ้นแต่ไม่รู้จะทำยังไงครับ ผมคิดว่าเขาคงไม่ตั้งใจทำให้เสียหายหรอกครับ คงเพียงต้องการใช้ชื่อเสียงของตัวเองที่เป็นที่รู้จักกันมากในประเทศไทยดึงเอาดนตรีคลาสสิคกับคนทั่วไปเข้ามาหากันน่ะครับ คงไม่ได้คิดว่าดนตรีคลาสสิคเป็นของเฉพาะกลุ่มหรือเฉพาะบุคคลอย่างที่หลายๆคนคิดและเข้าใจไปว่าตนเองเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ เลยไม่ค่อยได้นำมาแบ่งปันกันกับสังคมเป็นวงกว้างน่ะครับ

  105. Pin says:

    ขอประทานโทษนะคะ คำว่าอิจฉาริษยาเนี่ย ทางพระธรรม ได้อธิบายลักษณะไว้ว่า
    “สภาวะทางใจที่ไม่ต้องการให้อีกฝ่ายได้ดี” แต่ละท่านจะทราบใจของตนเองดีกว่าคนอื่นค่ะ

  106. Nokyai says:

    ขอบคุณคุณทฤษฎีครับ ได้ความรู้เยอะเลยครับ

  107. แฟนคลับคุณบัณฑิตและคุณทฤษฎี says:

    เขาไม่ได้จับผิด แต่มันมีความผิดปกติเขาก็ถามและตีแผ่ความจริง กรุณาเปิดใจให้กว้างและรับฟังคนอื่นบ้าง ต้องฟังทั้งสองฝ่าย… ที่คุณทฤษฎีถามมันไม่ผิดตรงไหน เป็นการถามอย่างตรงไปตรงมาที่สุด อย่างไม่ต้องตีความอีก

    แต่คำตอบของคุณบัณฑิต… อ่านแล้วต้องตีความว่า เขาได้ตอบคำถามของคุณทฤษฎีหรือไม่ เพราะเท่าที่อ่านดูมันออกแนว ไปไหนมาสามวาสองศอก

    อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ว่าเขาไม่่ดีหรือว่าอย่างไร เพียงแค่สงสัยว่า ทำไมไม่ให้เครดิตไว้ข้างหน้าละคะ มันไม่ยากจริงๆ นะ

  108. Nick says:

    For m says – this is the website http://www.maazel-vilar.org/

    The orchestra was the Orchestra of St. Luke’s in New York – a really excellent ensemble.

  109. Kitisak says:

    ซื้อ The magic of Mozart มาชุดหนึ่ง ด้วยเข้าใจว่า คุณ บัณฑิต คอนดักเองทั้งหมดเหมือนกัน
    แต่กลายเป็น คอนดักเฉพาะเพลงที่ * (ค่อนข้างน้อย)
    ส่วนตัวไม่ได้ซีเรียสว่าผลงานใคร ชอบตรงความรู้ประกอบมากกว่า
    คิดว่าน่าจะปรับลดการโปรโมทตัวเองลงบ้าง จะดีมากเลย

  110. 13 says:

    ผิดประเด็นรึเปล่าครับไอ้ logic แบบนี้เลิกใช้เถอะครับ

  111. Verapot says:

    คุณบัณฑิตคงแก้ตัวไม่ขึ้นหรอกครับ ด้วยแง่ที่ว่านี่ไม่ใช่อัลบั้มแรกที่มีลักษณะอย่างนี้ การผิดจรรยาบรรณอย่างนี้เป็นสิ่งที่น่าตำหนิอย่างมาก เพราะตั้งใจหรือจงใจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจว่าคุณบัณฑิตเป็นผู้ประพันธ์ ทั้งๆที่งานประพันธ์นี้ตัวเองไม่ใช่เจ้าของ และการไม่ยอมรับ ก็ทำให้คุณบัณฑิตดูไม่สง่างามเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้คุณบัณฑิตควรนำมาเป็นบทเรียน ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่เจตนา ผลงานของคุณในภายภาคหน้า จะต้องเผชิญผลที่ตามมาของสิ่งเหล่านี้ และแน่นอนจะพิสูจน์ว่าคุณยังจริงใจกับแฟนคลับหรือไม่

    ชื่อเสียงเป็นของไม่แน่นอน ทำอะไรให้มันซื้อตรงเถอะครับ

  112. Xgen says:

    ขอบคุณคุณทฤษฎี สังคมเมืองไทยต้องการคนแบบคุณ

  113. juk says:

    เอ้อ ทำไมเราดูแต่แรกก็เข้าใจว่ามันเหมือนพวก CD รวมฮิตเพลงแบบทั่วไป
    แค่เค้าเป็นคนเลือก แล้วก็เอาหน้าตัวเองขึ้น

  114. tergviteza says:

    ขอหน่อยเถอะครับ สุดจะทน
    บัณ_ อึ้ง__ี หรือจะชื่ออะไรก็ตามแต่
    ทำไมทำอย่างนี้ครับผม ช่างเป็นการกระทำที่ ทำไห้ผมไม่อยากเอาเรื่องดนตรีของเมืองไทยไปพูดกับคนค่างประเทศเลย

    เจตนาจริงๆคือการหลวกลวงอย่างเห็นได้ชัดถาพูดตามตรงแล้ว
    หรือคุณจะออกมาบอกว่าไม่ได้หลอก ทั่งๆที่เอาเพลงของคุณอื่นมาลง แต่ดัน เอาชื่อเขาไปแอบ แล้วเอาชื่อคุณไส่ไปแทน

    ผมว่า เอาชื่อคุณออกไปจากแผ่นCDเลยดีกว่าครับ เห็นแล้วอุจาตตา จะมาสร้างชื่อเสียงโดยผลงานคนอื่นหรือครับ

    พอความจริงเกิด ก็ได้แต่อ้าง คนนั้นทำ คนนี้ทำ ก็แค่ทำตามเขางั้นหรือครับ
    ความเป็็นระดับโลกของคุณช่างต้อยต่ำเสียจริงๆ

    เก่งหรือไม่เก่งไม่เกี่ยวครับ
    ผมฟังดนตรีผมไม่ได้ฟังที่เล่นเก่ง หรือจะอะไรเก่ง ผมฟังเพราะชอบครับ
    ดูข้างบนไปถึงกลับช๊อคครับผม

    สุดท้าย ผมขอบอกว่า ผมจะไม่ซื้อ หรือจะไม่ฟัง แม้เดินสวนกันผมก็จะแช่ง
    และคุณเป็นส่วนหนึ่งที่ทำไห้ผมไม่ฟังเพลงไืืทย!

  115. no.9 says:

    ผมมองต่างมุมกับคนฟังเพลง ผมมองว่าหากคุณทฤษฎีท้วงติงกับคุณบัณฑิตตั้งแต่แรกโดยส่วนตัวผมว่าคนที่มีอีโก้สูงอย่างคุณบัณฑิตอาจจะคิดว่าโดนแบลคเมย์มากกว่าจะพูดคุยด้วยกันดีๆ คนที่ทำในสิ่งที่ไม่สว่างเค้าย่อมกลัวถูกการจับผิดอยู่แล้ว และเรื่องราวอาจจบลงโดยที่ไม่มีคนรู้ในวงกว้างก็ได้ ผมขอยืนยันว่าเท่าที่คุณทฤษฎีทำมาถุกต้องแล้วครับ

  116. Pingback: บัณฑิต อึ้งรังษี กับ ซีดีเจ้าปัญหา « Karma Machine

  117. Tango says:

    …..ปกซีดีก้เขียนอยู่นะว่า “บทเพลงเหล่านี้ได้ถูกคัดสรร โดย คอนดักเตอร์ บัณฑิต อึ้งรังษี … ทุกเพลงบรรเลงโดยนักดนตรีระดับโลกของยุโรป” (<<< คำว่า "คัดสรร" ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นคนคอนดักค์เองซะหน่อย)

    ……อ่านครั้่งแรกก็เข้าใจแล้วว่าเค้าไม่ได้คอนดักค์เองอ่ะ ไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องราวอะไรนักหนาเลยนี่……. (คนอ่านไม่เข้าใจเองแล้วมาหาว่าเค้าหลอกลวงแบบนี้มันก็ไม่ไหวนะ)

  118. คนขาย เพลง says:

    ในฐานะคนขาย cd เพลงที่อยู่กับเพลงมานานน พอสมควร และในฐานะของคนที่ชอบหนังสือคุณบัญฑิต หลายๆๆเล่ม ซื้อมาก็หลายเล่ม
    ทุกครั้งที่มีลูกค้ามาถามหา cd ของคุณบัณฑิตเนี่ย ลูกค้าทุกคนแน่นอน ต้องคิดว่าคุณบัณฑิตเป็นคนคอนดักเตอร์แน่นอน
    ผมยังคิดว่าเป็นแบบนั้นเลย เพราะหน้าปกไม่มีข้อมุลของคนอื่นเลย โดยปกติ cd เพลงคลาสสิคส่วนใหญ่จะมี มันก็เป็นเรื่องน่าแปลกใจครับ ว่าทำไมถึงมีอยู่ใน cd ตัวเล็กๆๆ

    ก่อนหน้านั้นขายไปหลายแผ่นแล้ว ผมพึ่งมารู้เรื่ีองนี้จากลูกค้า เมื่อวันก่อน พอมาตามก็พึ่งรู้ว่าเรื่องนี้ผ่านมาเกือบครึ่งปีแล้ว
    ตอนแรกที่ได้ยินลูกค้าพูดยังรู้สึกอคติลูกค้าท่านนี้เลยที่มากล่าวหาศิลปินคนโปรด แต่พอมารู้ ข้อมูลที่หลัง ก็รู้สึกเสียใจหน่อยครับ เพราะปกติผมก็ไม่เคยเห็น cd เพลงคลาสสิกที่ไม่มีชื่อวงที่คอนดัก หรือว่าใครเป็นผู้คอนดักกัน ก่อนหน้านั้นลูกค้าเคยสงสัยเหมือนผมเหมือนกัน ว่าใช่คุณบัณฑิต คอนดัก หรือเปล่า ?? ทุกครั้งผมบอกว่าใช่ครับ..
    คราวนี้ทำผมอึ้งไปเหมือนกันกับเรื่องนี้

    ส่วนเรื่องของคุณทฤษฏี ผมว่าไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องอิจฉานะครับ เปิดเผยความจริงเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุด ให้กำลังใจครับ
    ส่วนเรื่อง คุณบัณฑิต ผมว่าไม่ได้เลวร้ายมาก แต่ไม่ควรกระทำอีกเป็นอย่างยิ่ง คราวหน้าถ้ามีการทำ cd ขึ้นมาอีก ขอข้อมูลที่ชัดเจนเรื่องใครเป็นผู้คอนดัก วงไหนเล่น คัดเลือกบทเพลงโดย คุณบัณฑิต หรือใครก็ตามแต่.. ขอข้อมูลที่ชัดเจนเลยครับ

    ขอโทษที่มาเขียนเรื่องที่ผ่านไปนานแล้วนะครับ…. แต่พอรู้แล้วสะเทือนใจเหมือนกันครับ

  119. แม่อู๋ says:

    ความรู้ความสามารถระดับคุณบัณฑิต จะทำอะไรน่าจะคิดรอบคอบก่อนอยู่แล้ว
    ทีมทนายก็น่าจะscreen ระดับหนึ่งก่อนผลิต
    อย่างไรก็ตามอาจมีข้อผิดพลาดบางจุดที่นึกไม่ถึง
    สงสัยว่า หากคุณทฤษฎี มีความปรารถนาดีกับคุณบัณฑิตจริง สิ่งที่น่าทำเป็นอันดับแรกคือการติดต่อพูดคุยถามความจริงกับคุณบัณฑิตก่อนว่าเรื่องเป็นอย่างไรและควรแก้ไขอย่างไร หากคุณบัณฑิตไม่ตอบกลับ หรือบ่ายเบี่ยงแล้วค่อยว่ากัน เพราะดูจากที่คุณทฤษฎีวิพากษ์รวมทั้งถ่ายภาพมาก็รู้สึกว่าละเอียดมาก ทำการบ้านดีมากจริง ๆ
    ….คุณทฤษฎี ไมควรรีบไปฟ้องต่างชาติหรือเขียนblogวิจารณ์เลยโดยยังไม่ได้ฟังความใด ๆ เพราะคนทั่วไปอาจมองว่าเป็นการแสดงออกถึงอาการอิจฉาหรือฉวยโอกาสหาช่องจ้องทำร้ายคุณบัณฑิตอยู่น่ะค่ะ รวมทั้งไม่เป็นผลดีกับชื่อเสียงคนไทยในสายตาคนต่างชาติด้วยเขาอาจมองเราว่าทำไมแทนที่คนชาติเดียวกันจะปกป้องกันเองไฉนกลับมาจ้องทำร้ายกันเองแบบเอาเป็นเอาตายอะไรทำนองนั้นน่ะค่ะ

  120. เป็นกำลังใจให้น่ะครับ

  121. asdfasdf says:

    ไอ้ขี้อิจฉา ทฤษฎี เอ๋ย ดังให้เท่าเค้าก่อนเหอะวะ

Leave a reply to To'M@ZZu ครับ Cancel reply